แกว่งตัวในกรอบ

ขณะที่ ตลาดหุ้นภูมิภาคเริ่มอ่อนแรงลงในภาคบ่ายเช่นกัน คาดว่าเป็นแรงขายทำกำไรหลังจากที่ปรับตัวขึ้นมาหลายวันก่อนหน้านี้ ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดที่ 1,609.38 จุด (-5.42 จุด) Volume 8.8 หมื่นลบ. ต่างชาติ -2,027.31 ลบ. TFEX Net +25,120 สัญญา ตลาดตราสารหนี้ -1,598 ลบ.

ปัจจัยบวก / ปัจจัยลบ

+ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวก 55.21 จุด +0.20% หลังจากปธน.ทรัมป์ส่งสัญญาณว่า สหรัฐกำลังอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการทำข้อตกลงการค้ากับจีน และการที่นายเจอโรม พาวเวลแสดงมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับภาวะศก.ของสหรัฐ

+ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดบวก 40 เซนต์ +0.6% ปิดที่ 58.41 ดอลลาร์/บาร์เรล ขานรับการคาดการณ์ว่าสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐจะปรับตัวลดลง และความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน

+สหรัฐเผยขาดดุลการค้าในเดือนต.ค.ลดลง 5.7%

+ครม.อนุมัติ 3 มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจปลายปี 2562-เพิ่มความเข้มแข็งของศก.ฐานราก-มาตรการช่วยเหลือเกษตรกร-“บ้านดีมีดาวน์” หวังดัน GDP ขยายตัว 2.8% สูงกว่าที่สภาพัฒน์คาดการณ์

-Conference Board เผยความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐร่วงเดือนที่ 4 ในพ.ย.

-สหรัฐเผยยอดขายบ้านใหม่ลดลง 0.7% ในเดือนต.ค.

-Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD -1.5 หมื่นลบ. ค่าเงินบาท 30.22 บาท/US

 *จับตาสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) แถลงดัชนีอุตสาหกรรม สหรัฐเผย GDP Q3/2562 จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ และ Beige Book จากเฟด

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวในลักษณะ Sideway ออกข้าง โดยมีแรงหนุนจากข่าวว่าสหรัฐ-จีนกำลังอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการทำข้อตกลงทางการค้า ส่วนปัจจัยในประเทศได้แรงหนุนจาก 3 มาตรการกรตุ้นเศรษฐกิจช่วงปลายปี  คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,605-1,620 จุด

 

กลยุทธ์การลงทุน

• หุ้นได้ประโยชน์กรณีกรมสรรพสามิตแตะเบรกภาษีความเค็ม (TKN TFMAMA)
• หุ้นได้ประโยชน์มาตรการ "บ้านดีมีดาวน์" (SPALI AP LPN PF ORI ANAN)
• หุ้นได้ประโยชน์จากเลื่อนใช้มาตรฐานบัญชีใหม่ หรือ TAS 32 ไปอีก 3 ปี (PTTEP CPALL CPF MINT IVL ANAN PF TTCL)

หุ้นรายงานพิเศษ

CKP analyst meeting (ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 6.11)

-คาด 4Q62 ผลประกอบการถูกกดดันจากปริมาณน้ำทั้งเขื่อนน้ำงึม2และไซยะบุรีที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี

-1H63 ยังเป็น low Season ของการผลิตไฟฟ้าจากทั้ง 2 เขื่อน โดย 2H63 จะเป็นช่วงhigh season ของการผลิตไฟฟ้าจากเขื่อน

-ความเห็นราคาหุ้นยังถูกกดดันจากผลประกอบการจากโรงไฟฟ้าพลังน้ำที่ปริมาณน้ำยังน้อย แนะนำชะลอลงทุน

หุ้นมีข่าว   

·      (+) GULF (Bloomberg Consensus 161.94 บาท)  เซ็นผู้รับเหมา “วินด์ฟาร์มเวียดนาม” แล้วเมื่อวันที่ 8 พ.ย. และ 25 พ.ย.ที่ผ่านมา เผยในช่วงของเฟสแรก กำลังการผลิต 30 เมกะวัตต์ (MW) เตรียมผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ปี 2563 พร้อมกำหนด COD ให้ครบ 310 MW ภายในปี 2564 (ที่มา ทันหุ้น)

·      (+) BCP (Bloomberg Consensus 31.55 บาท) คาดปี 63 กำลังการกลั่นเต็มสตรีมพุ่ง 1.3 แสนบาร์เรลต่อวัน พร้อมทุ่มงบลงทุน 800 ล้านบาท ลุยขยายปั๊มเพิ่มอีก 60 แห่ง จากปีนี้ 1,200 แห่ง จ่อเปิดปั๊มเมียนมา 2 แห่ง นอกจากนี้ควัก 8 พันล้านบาทเดินหน้าปรับปรุงโรงกลั่นฯให้เป็นมาตรฐานยูโร 5 ภายในปี 67 (ที่มา ข่าวหุ้น)

·      (+) DTC (Bloomberg Consensus - บาท)  เดินหน้าขยายธุรกิจในฟิลิปปินส์ต่อเนื่อง เตรียมเปิด “โรงแรมดุสิตปริ้นเซส โบราไกย์” ที่หาดทรายขาวของเกาะโบราไกย์ เป็นแห่งที่ 6 ไตรมาส 1/64 ก่อนลุยเพิ่มอีก 11 โครงการ ภายใน 3 ปี (ที่มา ข่าวหุ้น)

·       (+) CPN (Bloomberg Consensus 78.07 บาท)  ดึงยักษ์ใหญ่ "มิตซูบิชิ เอสเตท เอเชีย" เข้าถือหุ้นเซ็นทรัลวิลเลจ 30% มูลค่า 1 พันล้านบาท หวังเพิ่มศักยภาพ เพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยว 20% ดันผลตอบแทนเพิ่มขึ้น 12% ลั่นไฮซีซันหนุนผลงานไตรมาส 4 แถมมีรายการพิเศษดันงบสูงสุด ปีหน้าตั้งเป้าโตอีก 13% วางหมาก 5 ปีข้างหน้า ลุย M&A เพิ่ม 2-3 ดีล เสริมแกร่งธุรกิจเพิ่ม (ที่มา ทันหุ้น)

·      (+) D (Bloomberg Consensus - บาท) ส่งสัญญาณธุรกิจปี 2563 เข้าสู่ปีแห่งการเก็บเกี่ยวผลจากการลงทุน คาดกวาดรายได้ทะลุ 1 พันล้านบาท เติบโตจากปีนี้ที่น่าจะทำได้ 800-850 ล้านบาท จากการขยายสาขาทั้ง 17 สาขา ชี้โรงพยาบาลฟันสดใส ต้นทุนค่าใช้จ่ายลด โดดรับอานิสงส์ค่าเงินบาท นำเข้าวัสดุทันตกรรมถูก เล็งประมูลงานภาครัฐหลัก 100 ล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)

·      (+) SC (ราคาเหมาะสม 2.88 บาท)  คาดปี 63 รายได้โครงการแนวราบเติบโต 5-10% มองดีมานด์ตลาดแนวราบยังแข็งแกร่ง แม้ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ ปีหน้าแย่กว่าปีนี้ แต่ระยะสั้นมีมาตรการกระตุ้นหนุน มองโอกาสเปิดโครงการปี 63 มากกว่าปี 62 เล็กน้อย เน้นโครงการแนวราบ ส่วนปีนี้ยังคงเป้ารายได้ที่ 1.9 หมื่นล้านบาท พร้อมคงเป้ายอดขายที่ 2 หมื่นล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)

·      PACE เปิดเผยแนวทางปลดเครื่องหมาย C ว่าบริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ในฐานะเจ้าหนี้สถาบันการเงินอย่างต่อเนื่อง โดยเตรียมแผนปรับโครงสร้างทางการเงินและแก้ไขปัญหาการผิดนัดชำระหนี้ เพื่อในการดำเนินธุรกิจของบริษัทต่อไป  ในช่วงไตรมาส 4/2562 บริษัทได้ทำการจำหน่ายหุ้นในบริษัทย่อย ซึ่งสามารถลดภาระหนี้ของบริษัทได้ 1.51 พันล้านบาท ส่วนธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม กูร์เม่ต์ ดีน แอนด์ เดลูก้าอยู่ระหว่างปรับโครงสร้างโดยแยกบริษัทอเมริกาและเอเชียออกจากกัน