สั่งคุมเข้ม 3 จชต. หลังคนร้ายลอบวางระเบิดรางรถไฟ 'สุไหงปาดี-โต๊ะเด็ง'

สั่งคุมเข้ม 3 จชต. หลังคนร้ายลอบวางระเบิดรางรถไฟ 'สุไหงปาดี-โต๊ะเด็ง'

ผบ.ตร.สั่งคุมเข้มสถานที่สำคัญ แหล่งชุมชน และระบบพื้นฐาน รวมถึงตั้งจุดตรวจ-จุดสกัด ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ หลังคนร้ายลอบวางระเบิดรางรถไฟ สุไหงปาดี-โต๊ะเด็ง ขณะที่ตำรวจภูธรภาค9 มั่นใจเป็นฝีมือของกลุ่มก่อเหตุรุนแรง หวังสร้างสถานการณ์

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยความคืบหน้าเหตุลอบวางระเบิดทางรถไฟในพื้นที่ จ.นราธิวาส     ว่า ได้รับรายงานจากตำรวจภูธรภาค 9 ว่าวันนี้ (27 พ.ย.62) เวลา 05.55 น. สภ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส ได้รับแจ้งเหตุมีคนร้ายไม่ทราบชื่อและจำนวน ลอบวางระเบิดทางรถไฟ สุไหงปาดี-โต๊ะเด็ง ม.4 ต.โต๊ะเด็ง อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส ได้รับความเสียหาย จำนวน 1 จุด          เบื้องต้นไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุ พนักงานสอบสวน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด EOD เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่ส่วนที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันทำการตรวจสถานที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งถ่ายภาพทำแผนที่เกิดเหตุ และดำเนินการสอบสวนพยานที่เห็นเหตุการณ์และผู้ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน กำลังลงพื้นที่หาเบาะแส หรือข้อมูลของคนที่ก่อเหตุและตรวจสอบไล่กล้องวงจรปิด ในพื้นที่ที่เกิดเหตุ

อ่านข่าว-ป่วนใต้! ลอบบึ้มรางรถไฟสุไหงปาดี-โต๊ะเด็ง 

พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวด้วยว่า จากการสืบสวนสอบสวนเบื้องต้น เชื่อว่าเกิดจากฝีมือของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ หวังสร้างสถานการณ์ในพื้นที่ พร้อมกันนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้มีข้อสั่งการให้สถานีตำรวจในพื้นที่เพิ่มมาตรการในการเฝ้าระวังและการป้องกันเหตุความไม่สงบในพื้นที่โดยรอบของสถานีตำรวจและหน่วยราชการต่างๆ รวมไปถึงให้เพิ่มความเข้มงวดการตรวจตราสถานที่ต่างๆ เช่น แหล่งชุมชน สถานที่ท่องเที่ยว หรือสถานที่สำคัญ ที่อาจเป็นเป้าหมาย เพื่อป้องกันการเกิดเหตุในลักษณะแบบนี้ ตลอดจนเพิ่มมาตรการเข้ม ทั้งจุดตรวจ จุดสกัด ในการตรวจค้นรถทุกชนิดและบุคคลเป้าหมาย ตามเส้นทางหลักและเส้นทางรอง จัดชุดลาดตระเวนในพื้นที่ย่านเศรษฐกิจ และชุมชน โดยเน้นย้ำว่า หากเกิดเหตุขึ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเร่งสืบสวนสอบสวน ขยายผล จับกุมผู้ก่อเหตุได้ทันท่วงที เพื่อสร้างความมั่นใจและเพิ่มความปลอดภัยให้แก่ประชาชน นักท่องเที่ยวและนักลงทุนในพื้นที่ ทั้งนี้ ก็ขอความร่วมมือประชาชนในการช่วยเป็นหูเป็นตา สังเกตบุคคล วัตถุต้องสงสัย หรือวัตถุที่ไม่มีเจ้าของอยู่ผิดที่ ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ทันที หรือโทรศัพท์แจ้งเหตุร้ายเหตุด่วน ที่หมายเลข 191 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง