“อินโดฯ-เกาหลีใต้”หุ้นส่วนการค้าที่ต้องจับตา

“อินโดฯ-เกาหลีใต้”หุ้นส่วนการค้าที่ต้องจับตา

เกาหลีใต้และอินโดนีเซีย บรรลุข้อตกลงขั้นสุดท้ายเกี่ยวกับข้อตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ)โดยจะลงนามข้อตกลงนี้ร่วมกันในปีหน้า ซึ่งจะส่งผลให้ทั้งสองประเทศระงับการจัดเก็บภาษีสินค้านำเข้าหลายประเภทรวมทั้งเหล็ก รถยนต์และเบียร์

กระทรวงพาณิชย์ของเกาหลีใต้ ระบุว่า หลังจากหารือร่วมกันมานาน 7 ปีครึ่ง ในที่สุด รัฐมนตรีพาณิชย์ของเกาหลีใต้และอินโดนีเซีย   ได้ลงนามข้อตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจขั้นลึกระหว่างเกาหลีใต้และอินโดนีเซีย (ซีป้า)ที่ถือเป็นข้อตกลงการค้าเสรีระหว่าง2ประเทศ ที่จะระงับการจัดเก็บภาษีเหล็ก รถยนต์ และเบียร์ ในการประชุมสุดยอดผู้นำที่ปูซาน ประเทศเกาหลีใต้

เศรษฐกิจโลกที่กำลังเผชิญกับความไม่แน่นอนมากขึ้นจากกระแสปกป้องทางการค้าในช่วงหลายปีมานี้ ทำให้เกาหลีใต้ ในฐานะหนึ่งในประเทศที่ได้รับประโยชน์มากที่สุดจากการค้าเสรี และอินโดนีเซีย กำลังส่งสัญญาณให้โลกเห็นว่าให้การสนับสนุนอย่างแท้จริงต่อการค้าเสรี เปิดกว้าง และตั้งอยู่บนกฎระเบียบท่ามกลางช่วงเวลาที่ท้าทายอย่างมาก

การทำข้อตกลงการค้าเสรีครั้งนี้จะช่วยส่งเสริมการค้าสองประเทศให้มีมูลค่ามากกว่า 30,000 ล้านดอลลาร์ ภายในปี 2565 เพราะจะขจัดอุปสรรคทางภาษีหลายอย่าง เอื้อให้ธุรกิจของทั้งสองฝ่ายเข้าถึงตลาดอีกฝ่ายได้มากยิ่งขึ้น.

ทั้ง2ประเทศจะลงนามข้อตกลงนี้ร่วมกันอย่างเป็นทางการในปีหน้าหลังจากคณะรัฐบาลของทั้ง2ประเทศได้ทบทวนรายละเอียดของข้อตกลงแล้ว จะนำไปสู่การลงนาให้สัตยาบันโดยสภาทั้ง2ประเทศ และข้อตกลงซีป้าจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในทันที และ93% ของตลาดอินโดนีเซียจะเปิดกว้างให้แก่เกาหลีใต้ เพิ่มขึ้นจากปัจจุบันซึ่งอยู่ที่ 80.1%

ภายใต้ข้อตกลงที่ทั้ง2ประเทศทำร่วมกันครั้งนี้ อินโดนีเซีนจะยกเว้นไม่เก็บภาษีสินค้านำเข้าประเภทเหล็ก รถยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์ สิ่งทอและอะไหล่เครื่องจักรจากเกาหลีใต้ ส่วนเกาหลีใต้จะไม่เก็บภาษีสินค้าประเภท น้ำมันเตาชนิดที่3 หรือน้ำมันเตาที่มีความหนืดสูง น้ำตาล และเบียร์จากอินโดนีเซีย

“เราประเมินว่าการบรรลุข้อตกลงร่วมกันครั้งนี้จะช่วยให้บริษัทของเราเข้าไปลงทุนและตั้งฐานการผลิตในอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นชาติสมาชิกในอาเซียน ด้วยการไม่เก็บภาษีเหล็ก ชิ้นส่วนรถยนต์และผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี เราได้ตั้งกรอบงานความร่วมมือที่เปิดโอกาสให้รัฐบาลทั้งสองประเทศและบริษัทของทั้งสองประเทศกระชับความร่วมมือกันมากขึ้น ในด้านต่างๆทั้งการพัฒนาด้านอุตสาหกรรม พลังงาน เนื้อหาด้านวัฒนธรรม โครงสร้างพื้นฐานและสุขภาพ”แถลงการณ์ ระบุ

การบรรลุข้อตกลงการค้าระหว่างกันมีขึ้นในช่วงที่ฮุนได มอเตอร์ ค่ายรถยนต์ชั้นนำของเกาหลีใต้เตรียมลงนามข้อตกลงด้านการลงทุนกับหุ้นส่วนในอินโดนีเซียเพื่อสร้างโรงงานผลิตรถยนต์บนเกาะแห่งนี้ โดยเป็นโรงงานรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้าทั้งคัน และข้อตกลงนี้มีมูลค่า 1,000 ล้านดอลลาร์

ข้อตกลงของฮุนไดถือเป็นข้อตกลงที่ช่วยสนับสนุนอินโดนีเซียโดยตรง เนื่องจากอินโดนีเซียต้องการเป็นฮับการผลิตรถยนต์อีวี ในฐานะที่อินโดนีเซียเป็นหนึ่งในประเทศที่มีแหล่งนิกเกิ้ลที่ใหญ่ที่สุด โดยนิกเกิ้ลเป็นส่วนประกอบสำคัญในการผลิตแบตเตอรีลิเธียมที่ใช้กับรถยนต์

ขณะที่โตโยต้า มอเตอร์ ค่ายรถชั้นนำของญี่ปุ่น คู่แข่งของฮุนได ก็เตรียมลงทุนประมาณ 2,000 ล้านดอลลาร์ ในอินโดนีเซีย ในระยะ5ปีข้างหน้า ซึ่งครอบคลุมถึงการผลิตรถยนต์อีวีในประเทศนี้ด้วย

ส่วนปริมาณการค้าทวิภาคีของเกาหลีใต้และอินโดนีเซีย เมื่อปี 2561 มีมูลค่า 18,000 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 14% จากเมื่อปีก่อนหน้านี้ โดยสินค้าส่งออกของอินโดนีเซียเป็นสินค้าประเภทวัตถุดิบ และผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม ส่วนสินค้าที่อินโดนีเซียนำเข้า เป็นสินค้าประเภทเครื่องจักรและโลหะสำเร็จรูป