'ทอม วอลเลอร์' ขอพูดบ้าง ปมดราม่า The Cave นางนอน

"ทอม วอลเลอร์" ขอพูดบ้าง ปมดราม่า The Cave นางนอน ย้ำไม่อยากให้ตัดสินว่าภาพยนตร์ไม่ตรงความจริง เพียงเพราะรับชมจากตัวอย่างภาพยนตร์ หรือคำรีวิว

กำลังเป็นกระแสร้อนแรงทางโซเชียล มีเดีย สำหรับ The Cave นางนอน ภาพยนตร์เกี่ยวกับภารกิจกู้ภัยที่ถ้ำหลวงเรื่องแรกของโลกที่มีการสร้างกันออกมา เมื่ออยู่ดี ๆ หนังเรื่องนี้ก็ติดเทรนด์ฮิตทางทวิตเตอร์ของประเทศไทย เมื่อวันจันทร์ (25 พ.ย.) ที่ผ่านมา เพราะมีผู้มารีวิวหลายคนว่าตัวหนังสะท้อนให้เห็นถึงความล่าช้าของระบบราชการไทยที่กลายเป็นอุปสรรคขัดขวางการช่วยชีวิตนักฟุตบอลและโค้ชทีมหมูป่า อะคาเดมี ที่ติดอยู่ในถ้ำ

หลังจากนั้น ผู้กำกับ ทอม วอลเลอร์ และ จิม วอร์นี่ ฮีโร่นักดำน้ำชาวเบลเยี่ยม ที่ไปร่วมชมภาพยนตร์ THE CAVE นางนอน รอบการกุศล ณ โรงภาพยนตร์ เอส เอฟ เซ็นทรัลพลาซา ลำปาง ได้มีโอกาสพบกับผู้ว่าณรงค์ศักดิ์ ผู้อำนวยการศูนย์ในครั้งกู้ภัยถ้ำหลวง ซึ่งท่านได้กล่าวก่อนการฉายหนังว่าบทภาพยนตร์บางส่วนไม่ตรงกับเรื่องจริง! รวมถึงมุกตลกเกี่ยวกับความไม่พร้อมของระบบราชการไทย

“ประเด็นที่ 2 ที่เราเสียใจก็คือว่า มันเป็นมุกตลกที่ทุกชาติทุกภาษาสามารถทำได้เป็นภาพยนตร์ก็คือการที่มีความครื้นเครง ขั้นตอนของการเครียดบ้าง แต่มุกต่าง ๆ ที่เกิดเหตุในภาพยนตร์จะเป็นมุกต่าง ๆ เกี่ยวกับความไม่พร้อม ความไม่สมบูรณ์ของระบบราชการไทยเกือบทั้งนั้น

อย่างเช่นบทหนึ่งบอกว่า ถ้าท่านเก่งท่านกลับไปเก่งที่นครปฐมเลย หรือบทหนึ่งบอกว่า “ผมรออยู่ก็ไม่มีข้าราชการคนไหนหาอุปกรณ์ให้” หรือบทหนึ่งน้องหน้าตาสะสวยบอกว่า “ถ้าจะติดต่อต้องไปติดต่อที่ศาลากลาง” แล้วก็ยิ้มแย้มแจ่มใส ซึ่งในหน้างานไม่มีจริงอย่างนี้ ในหน้างานทุกคนเครียดหมด ไม่มีใครมีลูกเล่นอย่างนี้ การที่บอกให้ไปรายงานตัว ไม่มีการบอกให้ไปที่ศาลากลางเด็ดขาด เพราะทุกคนต้องมารายงานตัว

การต้องมารายงานตัวเพราะการเอาอุปกรณ์เข้าไปไม่รู้ว่าจะสัมพันธ์กัน....ทุกคนอยากเข้าถ้ำหมด แต่ถ้าทุกคนเข้าถ้ำพื้นที่ปฏิบัติงานจะทำไม่ได้ เราจะให้คนที่ออโธริตี้เท่านั้นที่จะเข้าถ้ำ เพราะฉะนั้นเราต้องกรองคนว่าคุณจะไปอยู่ตรงไหน ไปอยู่ทีมไหน เราจะได้กรองคน เรามีทีมวิชาการ ซึ่งราชการไม่ได้บริหารเองแต่เป็นนักวิชาการจากสภาวิศวกรของประเทศไทยซึ่งเป็นประธานวิชาการของเรา ซึ่งเป็นคนกลั่นกรองต่าง ๆ แล้วก็บอกว่าถ้าอยู่ในทีมได้ให้ไปลงชื่อ” ผู้ว่าฯ ณรงศักดิ์ กล่าว

01

เรื่องนี้ส่งผลให้ผู้กำกับ ทอม วอลเลอร์ ขอพูดเปิดใจผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า “ความประทับใจเริ่มแรกที่ผมได้รับราว 20 นาที ที่ท่านด่าหนังผมให้ฟังว่าไม่เป็นจริง ดูจากตัวอย่างหนังแล้วไม่ควรเรียกว่าภาพยนตร์ based on a true story ควรเป็นแค่ภาพยนตร์ธรรมดา ท่านไม่มีเวลากระทั่งทักทายหรือมองหน้าจิม กระทั่งเข้าโรงภาพยนตร์ ท่านยังต่อว่าไม่หยุด 'ในภาพยนตร์มีตั้งหลายหน่วยงานที่ทำให้ภารกิจสำเร็จ ทำไมเล่าแต่ของผู้ใหญ่ของจิม ไม่มีที่เค้าเดินสำรวจขุดเจาะถ้ำ ภาพยนตร์ไม่ตรงกับความจริง...’ แล้วท่านเดินออกจากโรงไป

ท่านยังต่อว่าไม่หยุด 'ในภาพยนตร์มีตั้งหลายหน่วยงานที่ทำให้ภารกิจสำเร็จ ทำไมเล่าแต่ของผู้ใหญ่ของจิม ไม่มีที่เค้าเดินสำรวจขุดเจาะถ้ำ ภาพยนตร์ไม่ตรงกับความจริง...’ แล้วท่านเดินออกจากโรงไป

ผมไม่อยากให้ท่านตัดสินว่าภาพยนตร์ผมไม่ตรงความจริงเพียงเพราะท่านรับชมจากตัวอย่างภาพยนตร์ หรือคำรีวิว ที่บอกว่าสร้างมาล้อเลียน ขรก. ถ้าท่านชมภาพยนตร์จบแล้วต่อว่าหนังผม อันนั้นผมยอมรับได้ ท่านบอกภาพยนตร์ไม่ตรงความจริง ใช่ครับ มีซีนนึงที่ไม่ตรงจริง เจ้าหน้าที่อุทยานไม่ได้เป็นคนไล่อาจารย์อดิสรณ์ให้ไปเก่งที่นครปฐม แต่เป็นคำพูดของคนที่ไม่มีโอกาสได้ดูเพราะนั่งอยู่แค่ 3 นาทีครับ”

https://www.facebook.com/437017046319110/posts/2703134816373977?d=n&sfns=mo 

tom face