บรรยากาศที่เป็นบวกคาดหนุนดัชนีเดินหน้าต่อเพื่อขึ้นทดสอบ 1625-1630 จุด

บรรยากาศที่เป็นบวกคาดหนุนดัชนีเดินหน้าต่อเพื่อขึ้นทดสอบ 1625-1630 จุด

สุนทรพจน์ ประธานเฟด ค่อนข้างเป็นบวกต่อตลาด

นายเจอโรม พาวเวล เผยยังมองไม่เห็นความเสี่ยง negative surprise ในระยะข้างหน้า พร้อมคงมุมมองเชิงบวกต่อภาพรวมเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ผ่านตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภค การจ้างงาน และความเชื่อมั่นผู้บริโภค ที่แข็งแกร่ง และยังยืนยันถึงความเหมาะสมของอัตราดอกเบี้ยนโยบายในปัจจุบัน (การหยุดลดอัตราดอกเบี้ยสะท้อนถึงความเสี่ยงต่อภาวะถดถอยที่ลดลง)

โมเมนตัมการฟื้นตัวยังไปได้ต่อ พัฒนาการเชิงบวกทางการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯ ยังคงเป็นปัจจัยขับเคลื่อนหลักต่อทิศทางกระแสเงินทุนรวมถึงมุมมองเศรษฐกิจโลกในปีหน้า โดยการบรรลุข้อตกลงเฟสแรกเชื่อว่าจะเกิดขึ้นได้ไม่เกินไตรมาส 1 ปีหน้า หรือ อย่างน้อยที่สุดคาดว่าทรัมป์จะระงับแผนจัดเก็บภาษีสินค้าจีนวันที 15 ธ.ค.ออกไปก่อน ซึ่งหากภาพดังกล่าวเป็นไปตามคาด เรามองว่าเพียงพอต่อการฟื้นตัวของราคาหุ้นผ่านเม็ดเงินที่ rotate ออกจากสินทรัพย์ปลอดภัย

อย่างไรก็ตาม ไม่แนะนำไล่ราคาบริเวณแนวต้าน  แม้เราจะยืนยันมุมมองเชิงบวกต่อทิศทางตลาดในช่วง 3-6 เดือนข้างหน้า แต่ภาพระยะสั้นยังมีโอกาสผันผวนค่อนข้างสูง รวมถึง อัพไซด์ที่อาจถูกจำกัดจากแรงทำกำไรตราบใดที่ตลาดยังไม่ทราบผลลัพธ์ทางการค้าของจีน-สหรัฐฯ ประกอบกับ มุมมองกำไรปี 63 ของตลาดหุ้นไทยที่ชะลอตัว ความขัดแย้งทางการเมืองภายใน รวมถึง ช่องว่างของนโยบายการเงิน (Policy space) ที่จำกัดเมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาค

MSCI ปรับหุ้นมีผลวันนี้ ซึ่งในรอบนี้มีการเพิ่มน้ำหนักหุ้นจีนขึ้น และลดน้ำหนักหลายตลาดลง ขณะที่คงน้ำหนักการลงทุนหุ้นไทยซึ่งถือเป็นปัจจยบวก โดยหุ้นที่ได้รับการเพิ่มเข้าคำนวณในดัชนี Global Standard ได้ก่ GPSC, SAWAD, BGRIM, OSP, BTS ขณะที่ดัชนี Small Cap หุ้นที่เข้าได้แก่ CENTEL, DOHOME, JMT, SPRC, STPI, TPIPP, TQM ขณะที่หุ้นที่ออกได้แก่ CBG, TISCO และ SAWAD

เรายังเน้น selective buy ในหุ้นที่โมเมนตัมกำไรช่วงครึ่งปีหลังเป็นบวก พื้นฐานแกร่ง ราคาไม่แพง ช่วงสั้นตลาดมีโอกาสผันผวนทั้งจากปัจจัยภายนอก และความไม่มั่นใจสถานการณ์ภายใน โดยเราคง theme การลงทุนใน 1) สาธารณูปโภคที่ยังไม่แพง WHAUP, SSP, NNCL 2) กลุ่มได้ประโยชน์จากน้ำมันทรงตัว อาทิ EPG, BJC, BGC, DCC โรงกลั่น SPRC, TOP, BCP, ESSO 3) กลุ่มโรงแรม AOT, MINT, ERW จากตัวเลขนักท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว // รวมถึงหุ้นที่น่าสนใจอื่นๆ อาทิ ADVANC, INTUCH, VRANDA*, TEAMG, MTC, SAWAD, VNT*, CPN // กลุ่มการแพทย์ ร.พ.ขนาดเล็กเด่น RPH*, RJH*, CHG

ภาพรวมกลยุทธ์ คงมุมมองการลงทุนโดยรวมเป็นบวกในระยะกลาง ช่วง 3-6 เดือนข้างหน้า แม้ตลาดระยะสั้นอาจผันผวนบ้าง // หุ้นแนะนำวันนี้ SCB*, SPRC /เก็งกำไร  THRE* (เป้า 0.75, ตัดขาดทุน 0.62), ZEN* (เป้า 16.00, ตัดขาดทุน 14.40)

แนวรับ 1600 จุด / แนวต้าน : 1625-1630 สัดส่วน : เงินสด 50% : พอร์ตหุ้น 50%

ประเด็นการลงทุน

FETCO เตรียมถกคลัง ปรับเงื่อนไขกองฯใหม่ที่จะมาแทน LTF - สภาธุรกิจตลาดทุนไทย หรือ FETCO เผยเตรียมพบ ก.คลัง เพื่อถกรายละเอียดเกี่ยวกับการปรับเงื่อนไขกองทุนสิทธิประโยชน์ทางภาษีใหม่ที่จะมาแทน LTF หลัง FETCO ไม่เห็นด้วยกับการนำเงินกองทุนใหม่ไปรวมกับ RMF โดยไม่ขยายวงเงิน

สื่อเผยจีนพร้อมเจรจาต่อเนื่องในอีกหลายเฟสกับทางสหรัฐฯ – สื่อจีนเผยว่า การเจรจาข้อตกลงระหว่างจีน-สหรัฐฯ ใกล้บรรลุเฟสแรกแล้ว พร้อมระบุ จีนพร้อมที่จะเจรจาข้อตกลงทางการค้ากับทางสหรัฐฯ ในอีกหลายเฟสตามมา

คาดการณ์หุ้นเข้า-ออก SET50/100 งวด 1H63 – SET50: (เข้า) – SCCC, KKP (ออก) – BPP, DELTA // SET100: (เข้า) – TFMAMA, SPI, SCCC (ออก) – RS, SUPER, BEC

ประเด็นติดตาม: 27 พ.ย. – US GDP 3Q62 / ดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของไทย เดือน ต.ค., 29 พ.ย.ดัชนีเงินเฟ้อยุโรป เดือน พ.ย. / ดุลการค้าไทย เดือน ต.ค.

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)