“มอร์แกน สแตนลีย์”ฟันธงศก.โลกฟื้นตัวไตรมาสแรกปี63

“มอร์แกน สแตนลีย์”ฟันธงศก.โลกฟื้นตัวไตรมาสแรกปี63

“มอร์แกน สแตนลีย์”ฟันธงศก.โลกฟื้นตัวไตรมาสแรกปี63 ถือเป็นการให้มุมมองบวกต่อภาวะเศรษฐกิจเพียงแห่งเดียว

ขณะที่สถาบันการเงินและเศรษฐกิจชั้นนำของโลก ออกรายงานเตือนให้ทุกประเทศออกมาตรการตั้งรับภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว จากสารพัดปัจจัยลบทั้งความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ในหลายพื้นที่ของโลก การทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน กรณีพิพาทการค้าระหว่างเกาหลีใต้และจีน รวมทั้งความไม่แน่นอนของสหราชอาณาจักรกรณีเบร็กซิทแต่มีบริษัทด้านการเงินระดับโลกสัญชาติสหรัฐกลับมีมุมมองสวนทางกับสถาบันการเงินและเศรษฐกิจส่วนใหญ่

มอร์แกน สแตนลีย์ เผยแพร่รายงานคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจโลกจะเริ่มฟื้นตัวในไตรมาสแรกของปี 2563 ขณะที่ความตึงเครียดทางการค้าและการดำเนินนโยบายทางการเงินจะเริ่มผ่อนคลายเป็นครั้งแรกในรอบ 7 ไตรมาส พร้อมทั้งคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังคงชะลอตัว ส่วนเศรษฐกิจประเทศตลาดเกิดใหม่จะเป็นตัวขับเคลื่อนหลักทำให้เศรษฐกิจโลกโดยรวมฟื้นตัว

มอร์แกน สแตนลีย์ คาดการณ์จีดีพีที่แท้จริงของสหรัฐจะชะลอตัวลงจาก 2.3% ในปีนี้เหลือโตแค่ 1.8% ในปีหน้า ส่วนเศรษฐกิจโลกจะฟื้นตัวตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี2562 โดยคาดการณ์ว่าปีหน้าจีดีพีโลกจะขยายตัวในอัตรา 3.2% เทียบกับปีนี้ที่คาดการณ์ว่าจะขยายตัว 3%

อย่างไรก็ตาม รายงานฉบับนี้ของมอร์แกน สแตนลีย์ ระบุว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกส่วนใหญ่จะขึ้นอยู่กับผลของการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนว่าจะเป็นอย่างไร และขึ้นอยู่กับว่า รัฐบาลสหรัฐจะเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนรอบใหม่ที่มีกำหนดจัดเก็บภายในวันที่ 15ธ.ค.หรือไม่ เพราะหากมีการจัดเก็บ การเติบโตของเศรษฐกิจโลกในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้จะชะลอตัวเหลือ 2.8% และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกก็จะล่าช้าออกไปจนถึงไตรมาส3ของปี2563