'วราวุธ' ห่วงเต่ามะเฟือง สั่งตั้งศูนย์เฝ้าระวังติดตามใกล้ชิด

'วราวุธ' ห่วงเต่ามะเฟือง สั่งตั้งศูนย์เฝ้าระวังติดตามใกล้ชิด

รมว.ทส. ห่วงเต่ามะเฟือง สั่งตั้งศูนย์เฝ้าระวังติดตามใกล้ชิด พร้อมถ่ายทอดสดให้ชมผ่านช่องทางออนไลน์

ตามที่ได้พบเต่ามะเฟืองขึ้นวางไข่บริเวณหาดท้ายเหมือง ใกล้พื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาลำปี - หาดท้ายเหมือง อ. ท้ายเหมือง จ. พังงา โดยล่าสุดกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ร่วมกับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช (อส.) ได้เคลื่อนย้ายไข่เต่ามะเฟืองไปฟักบริเวณชายหาดภายในเขตอุทยานแห่งชาติเขาลำปี - หาดท้ายเหมือง เรียบร้อยแล้ว เพื่อความปลอดภัย พร้อมจัดทีมนักวิชาการ และติดตั้งระบบติดตามเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง

นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ทันทีที่ตนได้ทราบข่าวก็รู้สึกตื่นเต้น และดีใจที่พบว่าเต่ามะเฟืองซึ่งเป็นสัตว์ทะเลหายากและเป็นสัตว์ที่ได้ขึ้นบัญชีสัตว์ป่าสงวน ขึ้นมาวางไข่ที่บริเวณชายหาดท้ายเหมือง แต่ก็รู้สึกกังวลไปในคราวเดียวกัน หากเต่ามะเฟืองได้รับการรบกวน และไข่ไม่ได้รับการดูแลที่ถูกต้อง ซึ่งจะส่งผลให้อัตราการฟักตัวต่ำหรืออาจเกิดผลกระทบข้างเคียงอื่น ๆ ได้ ตนจึงได้เร่งสั่งการให้กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ร่วมกับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ส่งทีมนักวิชาการลงพื้นที่ทันที เพื่อวิเคราะห์และวางมาตรการดูแลเต่ามะเฟืองให้ดีที่สุด อย่างไรก็ตาม ได้กำชับทั้ง 2 หน่วยงาน ให้หาวิธีให้ประชาชนรับทราบข่าวและสามารถติดตามความเคลื่อนไหวได้ เช่นเดียวกับกรณี น้องพะยูน มาเรียม เพราะตนทราบดีว่า หลายฝ่ายให้ความสนใจและอยากติดตาม แต่หากปล่อยให้มีการชมหรือเข้าถึงอย่างใกล้ชิด อาจจะเกิดการรบกวนหรือทำให้การฟักตัวไม่สมบูรณ์ก็เป็นได้ ทั้งนี้ ตนจะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด พร้อมได้ให้นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กำกับและรายงานให้ทราบอย่างต่อเนื่อง จนกว่าการฟักตัวของไข่เต่ามะเฟืองจะครบสมบูรณ์ นอกจากเต่ามะเฟืองแล้ว กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ให้ความสำคัญกับสัตว์ป่าสงวน รวมถึง สัตว์ทะเลหายากทุกชนิด โดยเตรียมหามาตรการและประสานความร่วมมือทั้งจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน รวมถึงสร้างเครือข่ายภาคประชาชน อย่างไรก็ดี ตนคิดว่าการดูแล รักษาทรัพยากรธรรมชาติ เป็นภาระหน้าที่ที่ยิ่งใหญ่ ตนได้ย้ำอยู่เสมอว่า ลำพังเจ้าหน้าที่ภาครัฐแม้จะทุ่มเทจนสุดกำลังความสามารถสักเท่าใดก็ไม่สามารถรักษาดูแลได้อย่างทั่วถึง คงต้องอาศัย ความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนทุกคนร่วมเป็นกำลังหลักในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติให้สมบูรณ์ และคงอยู่อย่างสมดุลในธรรมชาติ ต่อไป

157450992689

157450998632 ด้านนายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช (อส.) กล่าวเสริมว่า อส. ได้เตรียมพื้นที่ที่มีลักษณะทางนิเวศวิทยาที่เหมาะสมกับการฟักไข่ของเต่ามะเฟือง ภายในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาลำปี - หาดท้ายเหมือง เพื่อให้สามารถดูแลและบริหารจัดการได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น อีกทั้ง ยังมีเจ้าหน้าที่ อส. ดูแลตลอด 24 ชั่วโมง อย่างไรก็ตาม ตนได้มอบหมายเจ้าหน้าที่ร่วมสนธิกำลังและปฏิบัติงาน ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมจัดทีมประชาสัมพันธ์ภายในพื้นที่อุทยานเพื่อให้ความรู้และสร้างความเข้าใจกับประชาชนและนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยวภายในอุทยาน ทั้งนี้ เต่ามะเฟืองได้รับการคุ้มครองตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 ระบุว่า “ห้ามมิให้ผู้ใดล่าสัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครอง หากพิสูจน์ได้ว่าเป็นการล่า โทษสำหรับสัตว์ป่า สงวนคือ จำคุก 3 – 15 ปี ปรับ 300,000 - 1,500,000 บาท และ ในกรณีครอบครอง มาตรา 17 ระบุว่า ห้ามมิให้ผู้ใดมีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าสงวน สัตว์ป่าคุ้มครอง หรือซากสัตว์ป่า โทษครอบครองคือจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 500,000 บาท

ด้านนายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (อช.) เปิดเผยในเรื่องนี้ว่า เต่ามะเฟืองตัว ดังกล่าวมีสภาพค่อนข้างสมบูรณ์ ขนาดความยาว 194 ซม. ความกว้าง 173 ซม. ความยาวพายหน้าจากปลายพายข้างซ้ายไปขวา 197 ซม. โดยวางไข่รวมทั้งสิ้น 104 ฟอง เป็นไข่ดี 85 ฟอง และไข่ลม 19 ฟอง ทั้งนี้ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ร่วมกับ อุทยานแห่งชาติเขาลำปี-หาดท้ายเหมือง ศูนย์ปฏิบัติการอุทยานแห่งชาติทางทะเลที่ 2 จ. ภูเก็ต และทหารเรือจากฐานทัพเรือพังงา ร่วมกันจัดเตรียมพื้นที่จัดตั้งศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์เต่ามะเฟืองหาดท้ายเหมือง เพื่อเก็บข้อมูลและเฝ้าระวังพื้นที่หลุมฟักไข่เต่ามะเฟือง ตั้งแต่วันที่ 19 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา

157451005841

ต่อมา ได้ประสานแจ้งชาวประมงในพื้นที่ ประชาชน นักท่องเที่ยว และผู้ประกอบการท่องเที่ยว ให้ระมัดระวังการดำเนินกิจกรรมใด ๆ ในพื้นที่รัศมี 6 กม. จากจุดที่เต่ามะเฟืองขึ้นวางไข่ ซึ่งบริเวณหาดท้ายเหมืองจะมีเต่ามะเฟืองขึ้นมาวางไข่เกือบทุกปี โดยเมื่อธันวาคม 2561 พบเต่ามะเฟืองขึ้นมาวางไข่บนชายหาดคึกคัก อ. ตะกั่วป่า จ. พังงา ห่างจากจุดนี้ไปไม่มาก ซึ่งท่านจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ในขณะนั้น) ได้เปิดศูนย์เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์เต่ามะเฟืองอย่างใกล้ชิดเช่นกัน สำหรับวันนี้ (23 พฤศจิกายน) ตนพร้อมด้วยนายอภิชัย เอกวนากุล ผู้อำนวยการกองอนุรักษ์ทรัพยากรป่าชายเลน นายก้องเกียรติ กิตติวัฒนาวงศ์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอันดามัน นายปรารภ แปลงงาน หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการอุทยานแห่งชาติที่ 2 จ. ภูเก็ต นายอำเภอท้ายเหมือง กำนัน ,ผู้ใหญ่บ้าน,นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลท้ายเหมือง นายก อบต. นาเตย ผู้แทนบริษัททีโอทีจำกัด (มหาชน)และผู้แทนฐานทัพเรือพังงา ลงพื้นที่ศูนย์เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์เต่ามะเฟืองหาดท้ายเหมือง อ. ท้ายเหมือง จ. พังงา พร้อมทดสอบระบบเฝ้าระวังและติดตามเต่ามะเฟืองออนไลน์ ตามข้อสั่งการของนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยระบบดังกล่าวเป็นความร่วมมือของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ติดตั้งกล้องวงจรปิดรวม 6 กล้อง เพื่อถ่ายทอดภาพสดจากพื้นที่ เผยแพร่ผ่านเว็บไซต์กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ URL http://loveseaturtle.dmcr.go.th ส่งภาพ real-time ไปสู่พี่น้องประชาชนให้ได้ร่วมติดตามสถานการณ์ไปพร้อมๆ กัน โดยใช้กล้องอินฟราเรดสามารถใช้ได้ในบริเวณที่ไม่มีแสงเลยภาพกลางคืนที่ได้จะเป็นโทนสีขาวดำ เหมือนกับมีไฟส่อง โดยไม่รบกวนเต่ามะเฟืองแต่อย่างใด ทั้งนี้ กรณีพบการวางไข่หรือร่องรอยการวางไข่ โปรดรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ ทช. ที่หมายเลข 076-391128 อย่างไรก็ตาม ขอแนะนำให้รับชมได้อย่างใกล้ชิด ผ่านการถ่ายทอดภาพสดจากพื้นที่ทางเว็บไซต์ที่เตรียมไว้ ซึ่งจะถ่ายทอดตลอด 24 ชั่วโมง กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ขอขอบคุณในความร่วมมือของทุกฝ่าย และขอยืนยันว่าจะดูแลเต่ามะเฟืองและไข่ให้สามารถฟักได้อย่างสมบูรณ์ เพื่อจะได้ส่งลูกเต่ามะเฟืองกลับคืนสู่ธรรมชาติ อย่างปลอดภัยและสร้างสมดุลของความหลากหลายทางชีวภาพที่สมบูรณ์ ต่อไป นายโสภณ กล่าวในที่สุด