เตือนก.ม.หนุนฮ่องกงตีกลับเล่นงานสหรัฐ

เตือนก.ม.หนุนฮ่องกงตีกลับเล่นงานสหรัฐ

เตือนกฎหมายหนุนฮ่องกงตีกลับเล่นงานสหรัฐ ขณะผลสำรวจชี้ 61% ของบริษัทอเมริกันในฮ่องกงระบุว่าธุรกิจได้รับผลกระทบระดับสูงและปานกลางจากปัญหาประท้วงที่ยืดเยื้อ

บรรดาผู้เชี่ยวชาญมองว่า มาตรการจำกัดด้านการค้าที่สหรัฐอาจนำมาใช้ภายใต้กฎหมายที่สนับสนุนประชาธิปไตยในฮ่องกงอาจจะส่งผลกระทบย้อนกลับไปยังสหรัฐได้อย่างง่ายดาย และในท้ายที่สุด สหรัฐจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบเสียเอง

หลังสภาคองเกรสของสหรัฐ อนุมัติร่างกฎหมายสนับสนุนผู้ประท้วงในฮ่องกง จนทำให้เกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจของฮ่องกง บรรดาผู้เชี่ยวชาญก็ออกมาให้ความเห็นว่า มาตรการจำกัดด้านการค้าที่สหรัฐอาจนำมาใช้ภายใต้ร่างกฎหมายดังกล่าว อาจจะส่งผลกระทบย้อนกลับไปยังสหรัฐได้อย่างง่ายดาย

ฟรานซิส ที ลุย ศาสตราจารย์กิตติคุณของมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งฮ่องกง กล่าวว่า กฎหมายดังกล่าวไม่ได้สอดคล้องกับผลประโยชน์ของสหรัฐ และสหรัฐเคยเป็นผู้นำเข้ารายใหญ่ที่สุดสำหรับสินค้าของฮ่องกงเมื่อประมาณ 30 ปีที่แล้ว แต่ฮ่องกงได้ลดการพึ่งพาการส่งออกไปยังสหรัฐเหลือเพียง 500 ล้านดอลลาร์ต่อปี

ในทางกลับกันสหรัฐ ได้รับผลกำไรมหาศาลจากการค้ากับฮ่องกงโดยมียอดเกินดุลการค้ากับฮ่องกงมากที่สุดถึง 2.97 แสนล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับบรรดาคู่ค้าระดับโลกของสหรัฐในทศวรรษที่ผ่านมา และมียอดเกินดุลการค้ากับฮ่องกงมากกว่า 3.3 หมื่นล้านดอลลาร์ในปีที่ผ่านมา

ลุย ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า สหรัฐมีความเสี่ยงที่จะสูญเสียตลาดที่เป็นแหล่งของยอดเกินดุลการค้าที่ใหญ่ที่สุด ซึ่งจะไม่ช่วยให้สหรัฐบรรลุเป้าหมายของการค้าที่สมดุล และเมื่อเปรียบเทียบกับธุรกิจจากประเทศและภูมิภาคอื่นๆ บริษัทสหรัฐ ได้ตั้งสำนักงานใหญ่และสำนักงานภูมิภาคส่วนใหญ่ในฮ่องกงและใช้เป็นฐานในการสำรวจตลาดเอเชีย-แปซิฟิกในวงกว้าง โดยในปัจจุบัน มีบริษัทสหรัฐมากกว่า 1,300 แห่ง และพลเมืองสหรัฐ 85,000 คน ดำเนินกิจการและอาศัยอยู่ในฮ่องกง

หอการค้าอเมริกัน (แอมแชม) ในฮ่องกง เรียกร้องให้สนับสนุนสถานะพิเศษของฮ่องกง และกล่าวว่า ธุรกิจในสหรัฐหลายแห่งต่างก็แสดงความกังวลว่า กฎหมายดังกล่าว ซึ่งหลายมาตราเกี่ยวข้องกับการควบคุมการส่งออกและการคว่ำบาตร อาจส่งผลกระทบในทางลบกับพวกเขา

“ความจริงที่ว่าบริษัทส่วนใหญ่ที่ถูกสำรวจ ระบุว่าพวกเขาจะไม่ออกไปจากฮ่องกง ตอกย้ำถึงความสำคัญของฮ่องกงในฐานะศูนย์กลางธุรกิจเชิงกลยุทธ์ และไม่สามารถถูกแทนที่ได้สำหรับเอเชีย” ทารา โจเซฟ ประธานแอมแชมฮ่องกง กล่าว

ส่วน "หว่อง ผิง" ประธานสมาคมธุรกิจจีนในฮ่องกงกล่าวว่า กฎหมายดังกล่าวจะเพิ่มความกังวลให้กับบริษัทสหรัฐ ที่กำลังได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวทั่วโลก และความขัดแย้งด้านการค้า บริษัทสหรัฐจะสูญเสียฐานที่สำคัญและอิสระที่สุดในเอเชีย แปซิฟิก หากฮ่องกงถูกเพิกถอนสถานะเขตศุลกากรพิเศษ อันเนื่องมาจากกฎหมายดังกล่าว นอกจากนี้ สถาบันการเงินของสหรัฐก็อาจได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน

โรนัลด์ แวน ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน ที่มีประสบการณ์ในฮ่องกงกล่าวว่า ตลาดการเงินของฮ่องกงเปิดกว้างและคล่องตัวมาก ผู้เล่นสามารถถูกแทนที่ได้อย่างง่ายดาย แม้มีข้อเท็จจริงที่ว่า สถาบันการเงินของสหรัฐมีส่วนแบ่งตลาดขนาดใหญ่ในฮ่องกง แต่เมื่อสหรัฐปรับนโยบายเศรษฐกิจและการค้าของฮ่องกงแล้ว ก็มีความเป็นไปได้สูงที่ส่วนแบ่งการตลาดของพวกเขาจะถูกแย่งชิงโดยสถาบันการเงินจากประเทศและภูมิภาคอื่นๆ

ในความเป็นจริง การที่สหรัฐแทรกแซงกิจการภายในของฮ่องกง ส่งผลกระทบอย่างหนักหน่วงสำหรับบริษัทของสหรัฐเองในฮ่องกง โดยผลสำรวจของแอมแชมฮ่องกง เผยให้เห็นว่า 61% ของบริษัทสมาชิกที่ถูกสุ่มสำรวจ มองว่า ธุรกิจของพวกเขาได้รับผลกระทบในระดับที่สูงหรือปานกลาง จากความรุนแรงในฮ่องกง

ผู้เชี่ยวชาญ กล่าวว่า ขณะที่สหรัฐและฮ่องกงมีความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน ซึ่งเห็นได้จากการพัฒนาที่มั่นคงมานานหลายปี การคุกคามสถานะทางเศรษฐกิจของฮ่องกงด้วยการออกกฎหมาย จะส่งผลกระทบต่อทั้งสองฝ่าย

หว่อง ชี้ให้เห็นว่าความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศไม่ได้อยู่ที่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดที่ทำประโยชน์ให้กับอีกฝ่าย พร้อมทั้งเตือนว่า สหรัฐอาจประสบกับความสูญเสียมากขึ้นเมื่อจีนใช้มาตรการตอบโต้ที่รุนแรง

รัฐบาลของเขตปกครองพิเศษฮ่องกง (เอชเคเอสเออาร์) ระบุว่า สถานะที่เป็นเอกลักษณ์ของฮ่องกงที่ได้รับการรับรองโดยกฎหมายพื้นฐาน ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง และเป็นที่เคารพจากประชาคมโลก ดังนั้นฮ่องกงจึงได้สร้างความสัมพันธ์ด้านความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ร่วมกันกับคู่ค้าต่างๆ ในโลก รวมถึงสหรัฐ

ผู้เชี่ยวชาญ มีความเห็นว่า แม้กฎหมายของสหรัฐจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของฮ่องกงอย่างแน่นอน แต่ก็คาดว่าจะไม่ร้ายแรง เพราะการดำเนินการตามหลักการ “หนึ่งประเทศ สองระบบ” นั้น ตลาดขนาดใหญ่ของจีนแผ่นดินใหญ่และการสนับสนุนจากรัฐบาลกลาง จะเป็นแรงผลักดันที่แข็งแกร่งที่สุดสำหรับการพัฒนาของฮ่องกง

“การลงทุนในฮ่องกงเท่ากับการลงทุนในจีน ซึ่งเป็นเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองของโลก” เหลียง ไห่หมิง นักเศรษฐศาสตร์ฮ่องกงกล่าว

เหลียง กล่าวด้วยว่า ตราบใดที่นักลงทุนต่างชาติมีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับการพัฒนาในอนาคตของจีน และมั่นใจในความได้เปรียบของฮ่องกง ในด้านสภาพคล่องทางการเงินและการบริการระดับมืออาชีพ ฮ่องกง ก็จะสามารถรักษาสถานะของการเป็นศูนย์กลางทางการเงิน, การค้า และการเดินเรือระหว่างประเทศได้ รวมถึงความเจริญรุ่งเรืองและความมั่นคงอย่างยั่งยืน