ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวกครั้งแรกรอบ 4 วัน

ดัชนีดาวโจนส์ ปิดตลาดวันศุกร์ (22พ.ย.)ปรับตัวขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 4 วัน หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่า สหรัฐใกล้จะบรรลุข้อตกลงการค้าเฟสแรกกับจีนในเร็ววันนี้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปรับตัวขึ้น 109.33 จุดหรือ 0.39% ปิดที่ 27,875.62 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี500 เพิ่มขึ้น 6.75 จุดหรือ 0.22% ปิดที่ 3,110.29 จุดและดัชนีแนสแด็ก ปรับตัวขึ้น 13.67 จุดหรือ 0.16% ปิดที่ 8,519.89 จุด

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวในวันนี้ว่า สหรัฐใกล้จะบรรลุข้อตกลงการค้าเฟสแรกกับจีนในไม่ช้า แต่ก็บอกว่าเขาไม่ได้รู้สึกกระวนกระวายที่จะต้องรีบทำข้อตกลง เนื่องจากสหรัฐกำลังได้ประโยชน์จากการเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีน

ด้านประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน กล่าวว่า จีนจะร่วมมือกับสหรัฐในการทำข้อตกลงการค้าเฟสแรกบนพื้นฐานของการเคารพซึ่งกันและกัน และความเท่าเทียมกัน และจีนไม่วิตก หากต้องต่อสู้กับสหรัฐ

ขณะที่หนังสือพิมพ์เซาธ์ ไชนา มอร์นิง โพสต์ รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า เจ้าหน้าที่การค้าของสหรัฐและจีนกำลังใกล้บรรลุข้อตกลงการค้าเฟสแรก และมีความเป็นไปได้ที่ทั้งสองฝ่ายจะบรรลุข้อตกลงการค้าก่อนวันที่ 15 ธ.ค. ซึ่งเป็นกำหนดวันที่สหรัฐจะเรียกเก็บภาษี 15% จากสินค้านำเข้าจากจีนวงเงิน 1.56 แสนล้านดอลลาร์

แต่ถึงแม้ทั้งสองฝ่ายไม่สามารถบรรลุข้อตกลงการค้าก่อนวันดังกล่าวได้ ประธานาธิบดีทรัมป์ ก็มีแนวโน้มที่จะเลื่อนการจัดเก็บภาษีดังกล่าวออกไป เนื่องจากไม่ต้องการให้ผู้บริโภคของสหรัฐได้รับผลกระทบจากราคาสินค้าที่จะพุ่งขึ้น ซึ่งรวมถึงสมาร์ทโฟน หากมีการเรียกเก็บภาษีจากจีน ขณะที่ใกล้กับช่วงเทศกาลช็อปปิ้งของสหรัฐ