CK - ซื้อ

CK - ซื้อ

เจ็บสั้น แต่จะดีในระยะยาว

Event

ประชุมนักวิเคราะห์รอบ 3Q62 และปรับประมาณการกำไรปี 2562-64

lmpact

การประมูลโครงการภาครัฐน่าจะฟื้นในปีหน้า

เราคาดว่าการประมูลโครงการต่าง ๆ จะเดินหน้าในปี 2563 หลังจากจากประเด็นความล่าช้าในการผ่านงบประมาณของรัฐบาลผ่านไป (เราคาดว่าน่าจะได้รับการอนุมัติในปลายเดือนมกราคม 2563) โดยเราน่าจะเห็นการออก TORs ตั้งแต่ 2Q62 เป็นต้นไป ซึ่งโครงการหลักที่น่าจะออก TOR และเปิดประมูลได้ในปี 2563 ประกอบด้วย รถไฟฟ้า MRT สายสีส้มตะวันตก, MRT สายสีแดงเข้ม (3 สัญญา), runway เส้นที่ 3 และการปรับปรุงพื้นดินของสนามบินสุวรรณภูมิเฟสที่ 3 และโครงการรถไฟทางคู่เฟสที่ 2 บางส่วน ใสขณะที่เราคาดว่าสัญญาที่ 4 ของโครงการทางด่วนพระราม 3-ดาวคะนอง (6.2 พันล้านบาท) น่าจะเซ็นสัญญาได้ในเดือนธันวาคม 2562

ปรับลดประมาณการกำไรจากธุรกิจหลักปี 2562-64 ลง 19.9-22.8% เนื่องจาก equity income และ backlog ต่ำ (อยู่ที่ 3.72 หมื่นล้านบาทเมื่อสิ้นงวด 3Q62)

เนื่องจากผู้บริหารปรับลดเป้ารายได้ปี 2562-63 ลงจากระดับเดิมที่ 2.5 หมื่นล้านบาท เหลือ 2 หมื่นล้านบาท เราจึงปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2562-64 ลง 19.9-22.8% เนื่องจาก i) เราปรับลดประมาณการรายได้ปี 2562-64 ลง 11.5% - 29.3% จากการเลื่อนกำหนดประมูลโครงการภาครัฐออกไป ซึ่งจะทำให้กำหนดการรับรู้รายได้เนิ่นออกไป ii) เราปรับประมาณการรายได้ equity income ปี 2563-64 อีก 4.7% - 2.9% in 2020 -2021 เนื่องจาก CK Power (CKP.BK/CKP TB)*

กำไรจากธุรกิจหลักจะโตถึง 130% ในปี 2563 จาก equity income ที่เพิ่มขึ้น

แม้ว่ากำไรจากธุรกิจหลักในปีนี้จะไม่ได้เติบโตอย่างน่าสนใจ แต่เราคาดว่ากำไรจากธุรกิจหลักในปี 2563 จะโตถึง 130% เนื่องจากรายได้ equity income จาก Bangkok Expressway and Metro (BEM.BK/BEM TB)* และ CKP โดยเราคาดว่ากำไรจากธุรกิจหลักจะเพิ่มขึ้น YoY ตั้งแต่ 2Q63 เป็นต้นไป เนื่องจากรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย (บางซื่อ-ท่าพระ) เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบ และXPCL ก็เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ เราคาดว่ารายได้ equity income ปีหน้าจะถึงจุดสูงสุดใน 3Q63 เนื่องจาก i) จำนวนผู้โดยสารอยู่ในระดับสูงจากการเปิดดำเนินการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายเต็มรูปแบบในช่วงที่โรงเรียนเปิดเทอม และ ii) หน้ามรสุมของ XPCL

Valuation & Action

เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ และขยับไปใช้ราคาเป้าหมาย SOTP ปี 2563 ที่ 29.25 บาท เราคาดว่าผลประกอบการจะอ่อนแอใน 4Q19 - 1Q20 เนื่องจาก i) backlog ต่ำ ii) สัดส่วน SG&A/รายได้เพิ่มขึ้น และ iii) รายได้ equity income ที่เพิ่มขึ้นไม่เพียงพอที่จะชดเชยจาก backlog ที่ต่ำ เรามองว่าจังหวะที่เหมาะที่สุดที่จะเข้าซื้อสะสมหุ้น CK คือหลังประกาศงบ 4Q62 หรือ 1Q63

Risks

งานก่อสร้างล่าช้ากว่ากำหนด, ขาดแคลนแรงงาน และ การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ