'เอสซีจีซีเมนต์' ทรานส์ฟอร์มสู่บริการก่อสร้างครบวงจร

'เอสซีจีซีเมนต์' ทรานส์ฟอร์มสู่บริการก่อสร้างครบวงจร

เอสซีจีซีเมนต์ เผยวิสัยทัศน์ 2020 ทรานสฟอร์มธุรกิจขาย "ซีเมนต์และวัสดุก่อสร้าง" สู่ "บริการก่อสร้างครบวงจร" ปั้น 3 ธุรกิจใหม่บริการก่อสร้าง นวัตกรรมที่อยู่อาศัย และค้าปลีก ดันการเติบโตก้าวกระโดด

นายนิธิ ภัทรโชค กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เอสซีจี เปิดเผยถึงกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจปี 2020 ว่า ได้ปรับเปลี่ยนโมเดลธุรกิจใหม่ จากที่เติบโตในซีเมนต์และวัสดุก่อสร้างเป็นธุรกิจหลัก ซึ่งแนวโน้มมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 1-2 % เนื่องจากต้องพึ่งพาภาพรวมเศรษฐกิจที่เหนือการควบคุม อีกทั้งอัตราการเกิดลดลงทำให้ประชากรลดลง จึงมีความต้องการสร้างบ้านใหม่ลดลง 

โดยเฉพาะในปีนี้ที่ภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ชะลอตัว ส่งผลกระทบต่อภาพรวมธุรกิจวัสดุก่อสร้าง ดังนั้นจึงต้องมองปัญหาให้เป็นโอกาสในการปรับเปลี่ยนธุรกิจกระจายความเสี่ยง จึงมุ่งเปลี่ยนผ่านธุรกิจค้าขายวัสดุก่อสร้าง ไปสู่ธุรกิจใหม่ คือ บริการก่อสร้างครบวงจร ซึ่งจะเห็นรูปธรรมในภายใน 3-5 ปีจากนี้

ทั้งนี้ธุรกิจใหม่จะเน้นไปที่การแก้ไขปัญหาตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภคเป็นหลัก (Customer Centric) จึงออกแบบการบริการด้านการก่อสร้างครบวงจร 3 ด้าน ประกอบด้วย 1.ตลาดก่อสร้าง (Construction Service) เชื่อมต่อการบริการกับช่าง สถาปนิก ผู้รับเหมา และเจ้าของบ้าน เพื่อลดการสูญเสียจากการสร้างบ้าน เช่น การเลือกแบบผิด แบบไม่สอดคล้องกับการทำงานช่างรวมถึงช่างทิ้งงาน ถือเป็นอุปสรรค (Pain Point)ที่ทำให้เกิดกาสูญเสีย 15-20 % จากตลาดรวม 7 แสนล้านบาท 

2.การบริการด้านที่อยู่อาศัย (Living Solution) นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมเข้าไปช่วยซ่อมแซมบ้าน โดยทำหน้าที่เชื่อมต่อการจัดหาวัสดุและการบริการ เช่น ปัญหาบ้านร้อน การประหยัดพลังงาน และความปลอดภัยการอยู่อาศัย ตลอดจนการซ่อมแซมบ้าน และ 3.ธุรกิจค้าปลีก (Active OMNI-Channel) ร้านค้าปลีกวัสดุก่อสร้างที่เชื่อมออฟไลน์และออนไลน์ โดยประสานงานร้านค้าปลีกในเครือและจัดส่งสินค้าวัสดุก่อสร้างกว่า 840 แห่งทั่วประเทศ

 

“มีปัจจัยหลากหลายนอกเหนือการควบคุมในภาพรวมเศรษฐกิจที่ยังผันผวน การสร้างบ้านใหม่เติบโตเพียงเล็กน้อย ขณะที่ตลาดซ่อมแซมบ้านเก่าที่อายุครบ 30 ปีมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากที่ผ่านมา 3% เพิ่มเป็น 10% มูลค่าตลาด 3 หมื่นล้านบาท ตลาดเหล่านี้เป็น Pain Point ของคนสร้างบ้านที่ยังไม่มีใครเข้าแก้ไขปัญหา หากเชื่อมต่อทุกกระบวนการทำงานด้วยองค์ความรู้และเทคโนโลยีจะทำให้กลุ่มธุรกิจใหม่ได้ชัดเจนภายใน 3-5 ปี”

เขายังกล่าวว่า ได้ลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาที่สูงขึ้นมาตลอดจาก1.8 %ของยอดขายในปีนี้ จะเพิ่มเป็น 2% ของยอดขายในปีหน้า จากปัจจุบันสัดส่วนการบริการใหม่ประมาณ 30-40% และมีอัตราการเติบโตสูงตั้งแต่ 70% -100% ในบางบริการ โดยตลาดวัสดุก่อสร้างทั้งหมดมีมูลค่าสูงถึง 1.4 ล้านล้านบาท