ผลสำรวจชี้ 'ธุรกิจไทย’ ห่วงขอสินเชื่อใหม่ยากขึ้น
“แกรนท์ ธอนตัน” เผยความเชื่อมั่นธุรกิจไทยอยู่ในระดับต่ำ ผลจากกังวลเศรษฐกิจผันผวน ความวุ่นวายทางการเมืองทำงบปี 63 ล่าช้า แถมเป็นห่วงเข้าถึงสินเชื่อใหม่ “ยากขึ้น” แบงก์เข้มงวดปล่อยกู้ โดยเฉพาะธุรกิจขนาดกลาง กลุ่มอสังหาฯ รีเทล
นายเอียน แพสโค ประธานกรรมการบริหารและหุ้นส่วนของ แกรนท์ ธอนตัน ในประเทศไทย ผู้ให้บริการด้านการเป็นที่ปรึกษาทางธุรกิจไทย เปิดเผยว่า จากการสำรวจเชิงลึกเกี่ยวกับสถานะทางธุรกิจของไทย ในช่วงครึ่งปีแรก 2562 ที่ได้จากการสำรวจบริษัทขนาดกลาง ที่มีพนักงาน 50-100 คน จำนวน 102 บริษัท พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นธุรกิจไทยยังอยู่ระดับต่ำ แม้ความเชื่อมั่นจะขยับขึ้นมาอยู่ที่ 17% จากการสำรวจครึ่งปีหลังของปีก่อนอยู่ที่ 0% แต่อันดับอยู่ที่ 21 จากทั้งการสำรวจทั้งหมด 33 ประเทศ
สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจทั่วโลก ช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้อยู่ที่ 32% ลดลงราว 7% หากเทียบกับค่าเฉลี่ยที่ 39% ของครึ่งปีหลังปี2561 ร่วงลงต่ำสุดนับตั้งแต่ปี2559 ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจของเอเชียในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วในเอเซียแฟซิฟิกปรับลดลงเช่นกัน ล่าสุดอติดลบ 22% จาก12%ในการสำรวจครึ่งปีหลังปีก่อน โดยความเชื่อมั่นที่ลดลง หลักๆมาจากความเสี่ยงด้านสงครามการค้า ภาวะเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัว กระบวนการของ Brexit ที่ยังวุ่นวาย สถานการณ์ทางการเมืองในต่างประเทศ ซึ่งถือเป็นประเด็นที่ทั่วโลกวิตกกังวลเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ หากดูด้านความกังวลของภาคธุรกิจ พบว่า ประเทศไทยยังเป็นประเทศที่ผู้นำธุรกิจ แสดงความกังวลเรื่องความผันผวนทางเศรษฐกิจมากที่สุดถึง 75% เป็นผลมาจากสถานการณ์ความวุ่นวายทางการเมือง การอนุมัติงบประมาณรายจ่ายของรัฐบาลประจำปี2563 ยังมีความล้าช้า
“แม้ดัชนีความเชื่อมั่นของไทยเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 17% แต่ยังเป็นระดับที่ต่ำมาก และดัชนีที่เพิ่มขึ้น อาจมาจากธุรกิจที่ได้รับผลบวกจากค่าเงินบาทที่แข็งค่า หรือจากการขยายธุรกิจในต่างประเทศเพิ่มขึ้นเท่านั้น แต่ภาคธุรกิจไทยส่วนใหญ่ ยังมีความเชื่อมั่นต่อธุรกิจที่ยังต่ำ และมองว่าจากความผันผวนทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น เป็นข้อจำกัดในการเติบโตของธุรกิจในช่วงที่ผ่านมา”
ส่วนแนวโน้มความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจไทยในครึ่งปีหลัง 2562 เชื่อว่าทิศทางน่าจะไม่ต่างกับครึ่งปีแรก โดยคาดว่าดัชนีความเชื่อมั่นน่าจะยังอยู่ในระดับต่ำต่อเนื่อง จากการชะลอตัวของเศรษฐกิจไทย และคาดว่าการเติบโตของเศรษฐกิจไทยปีหน้า จะเห็นการขยายตัวได้ระดับต่ำกว่า 3%
ด้านนายธันวา มหิทธิวาณิชชา หุ้นส่วนของแกรนท์ ธอนตัน ในประเทศไทย กล่าวว่า อีกปัจจัยที่เป็นความกังวลและข้อจำกัดสำคัญของการดำเนินธุรกิจของธุรกิจไทย คือการเข้าถึงสินเชื่อใหม่จากสถาบันการเงินในประเทศ ที่นักธุรกิจไทยมีความกังวลมากขึ้นในด้านนี้ เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 58% หรือคิดเป็นการเพิ่มขึ้นราว 10% หากเทียบกับช่วงครึ่งปีหลังของปีก่อนที่อยู่เพียง 48% จากการเข้มงวดของสถาบันการเงิน ภายใต้ภาวะที่แนวโน้มหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้หรือ(เอ็นพีแอล)ของทั้งระบบอยู่ในระดับสูง
อีกทั้งจากการพูดคุยกับธุรกิจขนาดกลางในประเทศ พบว่า ภาคที่เข้าถึงสินเชื่อค่อนข้างยาก เช่น ภาคอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจรีเทล โดยบางบริษัทเข้าถึงสินเชื่อจากแบงก์ยากมากขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจรายย่อยที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวเป็นหลัก ที่พบว่าได้รับผลกระทบมากขึ้น จากการยอดนักท่องเที่ยว และยอดการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวลดลง ทำให้กลุ่มเหล่านี้เข้าถึงสินเชื่อได้ยากมากขึ้น