'ธนาธร' โต้คำพิพากษาศาลรธน.

'ธนาธร' โต้คำพิพากษาศาลรธน.

"ธนาธร" แถลงโต้คำพิพากษาศาลรธน. ตั้ง 3 ข้อสังเกต

เมื่อวันที่ 20 พ.ย.62 ศาลรัฐธรรมนูญ อ่านคำวินิจฉัยคดีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้พิจารณาว่าสมาชิกภาพการเป็น ส.ส. ของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3) เนื่องจากถือหุ้นสื่อ บริษัทวี-ลัค มีเดีย จำกัด เข้าลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. หรือไม่ หลังจากก่อนหน้านี้มีมติรับคำร้องเมื่อวันที่ 23 พ.ค. และสั่งนายธนาธร หยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.

เวลา 14.30 น. ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเริ่มอ่านคำวินิจฉัย คำร้องของคณะกรรมการการเลือกตั้ง ( กกต.) ที่ยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย กรณีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ถือหุ้น บริษัท วี-ลัค มีเดีย ว่าการกระทำของนายธนาธร เข้าข่ายมีคุณสมบัติไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญปี 2560 มาตรา 98 (3) ประกอบมาตรา 42 (3) ของ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 ถือได้ว่า เป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. เนื่องจากถือหุ้นในธุรกิจสื่อ และให้นายธนาธรพ้นสมาชิกภาพส.ส.

ภายหลังการอ่านคำวินิจฉัย นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ได้ให้สัมภาษณ์ว่า

"การเป็น ส.ส. ของผมก็ได้สิ้นสุดลงแล้ว ต้องขอบคุณประชาชนทุกคนที่ให้กำลังใจพวกเรา ทั้งที่อยู่ทางบ้าน และที่ศูนย์ราชการ ผมซาบซึ้ง และขอบคุณทุกกำลังใจที่มีให้เรา"

นายธนาธร ให้ความเห็นต่อคำวินิจฉัยของศาล ข้อแรก ศาลรัฐธรรมนูญอ้าง พ.ร.บ.การพิมพ์ว่า ยังมีใบอนุญาตการพิมพ์อยู่ ไม่ได้ยกเลิก ดังนั้น วีลัคมีเดีย จะเริ่มต้นการเป็นสื่ออีกครั้งเมื่อไหร่ก็ได้ ซึ่งเป็นการยอมรับไปแล้วว่า วีลัคไม่มีบุคลากร ไม่มีรายได้ เป็นบริษัทที่ปิดตัวแล้ว

ข้อ 2 ตอนที่ วีลัค ยังประกอบกิจการอยู่ การแจ้งโอนหุ้นที่เกิน 2 เดือน 16 วัน ก็มีเหมือนกัน ครั้งนี้ไม่ได้เป็นเรื่องแปลก ที่สำคัญที่สุด คือ หลังการประชุมผู้ถือหุ้นทุกครั้ง เราถึงจะยื่น บอจ.5 ก็เป็นปกติเหมือนที่ทำมาทุกครั้ง

"ส่วนการขึ้นเช็คช้ากว่าปกติ คุณรวิพรรณ (จึงรุ่งเรืองกิจ ภรรยา) ได้ชี้แจงไปชัดเจนครั้งที่แล้วว่า ปกติจะเป็นคนขึ้นเช็คให้กับผม ซึ่งชี้แจงชัดแล้วว่า วันนั้น ลูกยังอ่อนอยู่ ศาลบอกว่าให้คนอื่นไปได้ นี่เป็นเรื่องภายในครอบครัวนะครับ ผมจะให้ใครไปก็เรื่องของผม แล้วที่ผ่านมาผมก็ให้ภรรยาไปทุกครั้ง ไม่ให้คนอื่นไป เราเอาเช็คตัวจริงไปให้ กกต. ดูด้วย คุณรวิพรรณพอรู้ว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องราวใหญ่โต ก็ไม่กล้าไปขึ้นเช็ค เก็บเช็ควันที่ผมต้องเข้าไปให้การกับ กกต. วันที่ 30 เมษายน ก็เก็บเช็คนี้ไว้ แล้วให้ทนายความของพรรคนำเช็คนี้ไปยื่นให้ กกต. ดูด้วย แต่เราส่งแค่สำเนาไปในเอกสารแนบคดี นั่นก็คือ เหตุผลที่ว่าทำไมไปขึ้นช้า ดังนั้นที่ศาลบอกว่ามีแต่สำเนา เรื่องเช็ค ตัวจริงก็มี กกต. ก็เห็น นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ กกต. ไม่ได้โต้แย้งประเด็นนี้ว่าไม่ได้เห็น ก็แปลว่าเขาเห็นเช็ค"

157424858095