'กกต.' ชี้แจงไม่เคยเร่งรัดสำนวน หลัง 'ธนาธร' ฟ้องศาลอาญาคดีทุจริต

'กกต.' ชี้แจงไม่เคยเร่งรัดสำนวน หลัง 'ธนาธร' ฟ้องศาลอาญาคดีทุจริต

กกต. แจงหลัง "ธนาธร" ยื่นฟ้อง ยันไม่เคยเร่งรัดสำนวนด้วยเหตุจูงใจทางการเมือง ยกข้อกฎหมายแจงสิ้นสภาพส.ส.ที่ถือหุ้นสื่อไปศาลรธน.ทันที เหตุไม่อยู่ในอำนาจ กกต. ส่วนความผิดอาญาขาดคุณสมบัติ แต่ยอมให้ส่งชื่อสมัคร สำนวนยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของอนุไต่สวนฯ

เมื่อวันที่ 19 พ.ย. 62 ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ออกเอกสารข่าวชี้แจงกรณี นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ มอบอำนาจให้ทนายความ ไปยื่นฟ้องคณะกรรมการ กกต. ทั้ง 7 คน ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ข้อหาความผิดต่อตําแหน่งหน้าที่ราชการ จากการกล่าวหานายธนาธร ถือครองหุ้นสื่อของ บริษัท วี-ลัค มีเดีย จํากัด เป็นการเร่งรัดคดีโดยมีเหตุจูงใจทางการเมือง ซึ่งกรณีดังกล่าว กกต.เคยชี้แจงแล้ว ว่า การดําเนินการกรณีสมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสิ้นสุดลง เป็นการดําเนินการตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 วรรคสี่ ที่กําหนดไว้ในรัฐธรรมนูญเป็นการเฉพาะ ไม่ได้บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ หรือกฎหมายอื่นใด และไม่ได้อยู่ในนิยามของกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งและพรรคการเมือง ตามระเบียบ กกต.ว่าด้วยการสืบสวน การไต่สวน และการวินิจฉัยชี้ขาด พ.ศ. 2561 ดังนั้น การดําเนินการจึงไม่อยู่ภายใต้บังคับของระเบียบ กกต. เมื่อ กกต.เห็นว่าสมาชิกภาพของ ส.ส.คนใดคนหนึ่งมีเหตุสิ้นสุดลง ก็สามารถยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยได้ทันที

157414353618

“กรณี นายธนาธร เป็นกรณีความปรากฏต่อ กกต.ว่าสําเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น (แบบ บอจ. 5) มีชื่อ นายธนาธร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ เป็นผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใดๆ ซึ่งเป็นลักษณะต้องห้ามของผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร อันเป็นเหตุให้สมาชิกภาพของ ส.ส.สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ กกต.จึงได้ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย”

ส่วนการดําเนินการกรณคีดีอาญา เป็นการดําเนินการตาม พรป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 มาตรา 151 (ผู้ใดรู้อยู่ว่าตนไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง เนื่องจากขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.ได้สมัครรับเลือกตั้งหรือทําหนังสือยินยอมให้พรรคการเมืองเสนอรายชื่อเพื่อสมัครรับเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ) ซึ่งมีกระบวนการ “ไต่สวน” ตามระเบียบ กกต.คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนต้องแสวงหา และรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อเสนอสํานวนต่อ กกต.เพื่อพิจารณาวินิจฉัยชี้ขาด โดยต้องให้โอกาสผู้ถูกกล่าวหาทราบข้อกล่าวหา ข้อเท็จจริง และพยานหลักฐานโดยสรุป รวมทั้งให้โอกาสมาให้ถ้อยคําหรือแสดงพยานหลักฐานด้วย กรณี นายธนาธร มีผู้กล่าวหาว่าฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตาม กฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งและพรรคการเมือง ตาม พรป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร มาตรา 151 ประกอบรัฐธรรมนูญมาตรา 101(6) ประกอบมาตรา 98 (3) รู้อยู่ว่าตนไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง เนื่องจากขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้าม มิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. ซึ่ง กกต.ได้ดําเนินการตามระเบียบว่าด้วยการสืบสวนการไต่สวนฯ ขณะนี้ยังเป็นสํานวนอยู่ในขั้นตอนการดําเนินการของคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนฯ กกต.ยังไม่ได้มีคําวินิจฉัยชี้ขาดในเรื่องดังกล่าว และไม่ได้มีการเร่งรัดหรือมีมูลเหตุจูงใจทางการเมืองแต่อย่างใด

157414355253