ยังมองแรงกดดันช่วงสั้นชะลอลงหลังหมดประกาศผลประกอบการ

ยังมองแรงกดดันช่วงสั้นชะลอลงหลังหมดประกาศผลประกอบการ

สภาพัฒน์ฯ ปรับลด GDP ปีนี้เหลือ 2.6%

ขณะที่ผลิตภัณฑ์มวลรวม (GDP) ไตรมาส 3/62 เติบโตที่ 2.4% แม้เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2/62 ที่ 2.3% แต่ต่ำกว่าที่ตลาดคาดว่าจะเติบโต 2.7% สะท้อนถึงความอ่อนแอของเศรษฐกิจในช่วงไตรมาส 3/62 โดยเฉพาะจากภาคการส่งออก (รวมถึงภาคการผลิตโดยเฉพาะด้านอุตสาหกรรม) ขณะที่การบริโภคขยายตัว 4.2% ขณะที่การท่องเที่ยวยังมีส่วนช่วยต่อเศรษฐกิจ โดยจำนวนนักท่องเที่ยว +7.2% ขณะที่รายได้จากนักท่องเที่ยวต่างประเทศ +5.8% จากปัจจัยการบริโภคภายในที่อ่อนแอและยังต้องพึ่งพิงตัวแปรจำนวนมาก ทำให้กลุ่มท่องเที่ยวยังเป็นกลุ่มที่มีแรงส่งในช่วง 2 ไตรมาสข้างหน้าชัดเจนที่สุด เรายังคงชอบ MINT และ ERW สำหรับการลงทุน และ AOT สำหรับการเก็งกำไร

ประมาณการกำไรบจ.ยังคงปรับลดลง ภาพรวมกำไรบจ.ไตรมาส 3/62 เพิ่มขึ้น 4% QoQ แต่ปรับลดลง 17% YoY โดยหลักเป็นการปรับลดลงของกลุ่มพลังงาน ปิโตรเคมี และธนาคารพาณิชย์ ซึ่งมีสัดส่วนรวมกันเกือบครึ่งหนึ่งของกำไรบจ.ทั้งตลาดหุ้น ส่งผลให้ประมาณการกำไรต่อหุ้นของ SET Index ปรับลดลงต่อเนื่องล่าสุดอยู่ที่ 93.90 บาท/หุ้น หรือปรับลดลงจากต้นปีที่ 115 ราว 19% ทั้งนี้เราคาดอัตราการปรับลดลงของ EPS ของหุ้นไทยจะเริ่มชะลอหลังส่วนใหญ่รับรู้ไปในราคาและตลาดรวมถึงนักวิเคราะห์เองได้มีการปรับลดประมาณการไปพอสมควร อย่างไรก็ตามการลงทุนยังเน้นเลือกรายตัวในกลุ่มที่มีทิศทางกำไรเป็นบวก (positive earnings outlook) รวมถึงหุ้นปลอดภัยที่ซื้อขายด้วยราคาที่ไม่สูงจนเกินไป เรายังคาดแรงกดดันชะลอลงหลังหมดช่วงของการประกาศผลประกอบการแล้ว

เราเน้น selective buy ในหุ้นที่โมเมนตัมกำไรช่วงครึ่งปีหลังเป็นบวก พื้นฐานแกร่ง ราคาไม่แพง เพื่อให้สอดคล้องกับมุมมองของเราที่คาดตลาดเป็นบวกในช่วงไตรมาส 4/62 เราเน้น selective buy 1) สาธารณูปโภคที่ยังไม่แพง WHAUP, SSP, NNCL 2) กลุ่มได้ประโยชน์จากน้ำมันทรงตัว อาทิ EPG, BJC, BGC, DCC โรงกลั่น SPRC, TOP, BCP, ESSO 3) กลุ่มโรงแรม AOT, MINT, ERW จากตัวเลขนักท่องเที่ยวที่คาดฟื้นตัว // รวมถึงหุ้นที่น่าสนใจอื่นๆ อาทิ ADVANC, INTUCH, VRANDA*, TEAMG, MTC, SAWAD, VNT*, CPN // กลุ่มการแพทย์ ร.พ.ขนาดเล็กเด่น RPH*, RJH*, CHG

ภาพรวมกลยุทธ์ คงมุมมองการลงทุนโดยรวมเป็นบวกในช่วง 3-6 เดือนข้างหน้า ขณะที่ตลาดระยะสั้นแกว่งสร้างฐานในกรอบ 1595-1615 จุด // หุ้นแนะนำวันนี้ ACE*, EPG* /เก็งกำไร  THRE* (เป้า 0.75, ตัดขาดทุน 0.62), NNCL* (เป้า 2.40, ตัดขาดทุน 2.02)

แนวรับ 1595-1600 จุด / แนวต้าน : 1615-1625 สัดส่วน : เงินสด 50% : พอร์ตหุ้น 50%

ประเด็นการลงทุน

สภาพัฒฯ เผย GDP 3Q62 โต 2.4% – สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) แถลงตัวเลขอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจ (GDP) ของไทยใน 3Q62 เติบโต 2.4%

เศรษฐกิจยูโรโซน 3Q62 ขยายตัว 0.2% สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของยูโรโซน มีการขยายตัว 0.2% ใน 3Q62 สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

แบงก์ชาติจีนหั่นดอกเบี้ยระยะสั้นลงครั้งแรกในรอบ 4 ปี โดยปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ reverse repos ประเภทอายุ 7 วัน ลง 0.05% โดยลดลงจากระดับ 2.55% มาอยู่ที่ระดับ 2.5% ในวันนี้ ซึ่งเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี นับตั้งแต่ปี 2015

ก.ล.ต.ขอศาลออกหมายบังคับคดีกรณีปั่นหุ้น PICO –โดยให้ชำระเงินค่าปรับทางแพ่ง รวม 18,430,644.75 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี และห้ามซื้อขายหลักทรัพย์เป็นเวลา 1 ปี 6 เดือน รวมทั้งห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารในบริษัทที่ออกหลักทรัพย์หรือบริษัทหลักทรัพย์เป็นเวลา 3 ปี

 

ประเด็นติดตาม: 21 พ.ย. – FOMC meeting minutes, 22 พ.ย. – EU manufacturing PMI เดือน พ.ย.

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)