'เครือเนชั่น' จ่อเอาผิดอนาคตใหม่

'เครือเนชั่น' จ่อเอาผิดอนาคตใหม่

เครือเนชั่นจ่อเอาผิด“อนาคตใหม่-โฆษก” กล่าวหาให้เกิดความเข้าใจผิด ในการเสนอข่าวให้ร้ายพรรค-บุคคลของพรรค ขณะที่“ธนาธร” ส่งทนายฟ้อง 7 กกต.คดีถือหุ้นสื่อ ชี้ปฏิบัติหน้าที่มิชอบเร่งรัดสอบ-มีมูลเหตุจูงใจการเมือง ด้าน “ศาลอาญาคดีทุจริต” นัดฟังคำสั่ง 3 ธ.ค.

ความเคลื่อนไหวพรรคอนาคตใหม่(อนค.) ก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยในคดีการถือครองหุ้นบริษัทวี-ลัค มีเดียของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคในวันที่ 20 พ.ย.

วานนี้(18พ.ย.)น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ แถลงว่า ล่าสุดนายธนาธร ได้มอบหมายให้ทีมทนายความไปยื่นต่อศาลอาญาแผนกคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ฟ้องร้องคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต. ) ทั้ง 7 คน โดยพรรคไม่ได้ฟ้องร้อง พ.ต.อ.จรงุวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. ตามที่สื่อฉบับหนึ่งได้นำเสนอไป ข้อหาที่ฟ้องร้องกกต. คือข้อหาประพฤติมิชอบ ในการที่ไม่ได้ใช้อำนาจในการไต่สวนพยานหลักฐานสืบหาข้อเท็จจริงอย่างเต็มที่

“นายธนาธรได้กล่าวแล้วว่า มีการตั้งอนุกรรมการขึ้นมาเพื่อไต่สวนข้อเท็จจริง ก่อนที่จะส่งเรื่องให้กับ กกต.เพื่อดำเนินการต่อไป แต่ กกต.กลับไม่รอให้การไต่สวนเรียกพยานเข้ามาให้ปากคำต่อคณะอนุกรรมการฯ แต่กลับรวบรัดและส่งคดีไปยังศาลรัฐธรรมนูญก่อนที่การไต่สวนของคณะอนุกรรมการฯ จะเสร็จสิ้น เป็นเหตุให้ชวนสงสัยได้ว่ามีการเร่งรัดคดีโดยมีเหตุจูงใจทางการเมืองหรือไม่”น.ส.พรรณิการ์ กล่าว

ด้วยเหตุนี้เราจึงตัดสินใจฟ้อง กกต. ในข้อหาประพฤติมิชอบเร่งรัดไต่สวนคดี ทำให้เกิดความเสียหายต่อนายธนาธรใน 2 ประการ คือ 1.การถูกระงับการปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. และ 2.ความเสียหายต่อชื่อเสียงของนายธนาธรเอง เนื่องจากทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจไปแล้วว่านายธนาธรได้ลงสมัครรับเลือกตั้งทั้งที่มีคุณสมบัติต้องห้ามตามกฎหมาย ซึ่งกรอบระยะเวลาการดำเนินคดีก็คงจะยาวนานหลายเดือน แต่เราถือว่าได้ทำดีที่สุดเพื่อให้ประชาชนได้เห็นว่าเกิดการดำเนินคดีด้วยกระบวนการที่ไม่เป็นธรรมในคดีความของนายธนาธร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดศาลศาลอาญาแผนกคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ได้รับคำฟ้องไว้ในสารบบคดีหมายเลขดำ อท.168/2562 ซึ่พร้อมนัดฟังคำสั่งชั้นตรวจคำฟ้องว่าจะรับคดีไว้ไต่สวนมูลฟ้องหรือไม่ ในวันที่ 3 ธ.ค.นี้ เวลา 09.00 น.

อนค.เปิดศูนย์รับข้อมูลซัฟอก

น.ส.พรรณิการ์ ยังได้แถลงถึงกรณีการเตรียมอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลช่วงกลางเดือน ธ.ค.นี้ว่า ในส่วนของพรรคจะวางตัว นายธนาธร เป็นหัวหน้าทีมในการจัดวางยุทธศาสตร์แต่ข้อมูลจะยังไม่เข้มข้นหนักแน่นเท่ากับเราได้ข้อมูลจากพี่น้องประชาชนทุกคนในประเทศไทยที่มีเบาะแส เช่น การทุจริตคอรัปชั่น การฮั้วประมูล การตกลงกันในสถานที่ลับต่างๆ สามารถส่งข้อมูลให้พรรคอนาคตใหม่ได้ หรือมีข้อมูลการใช้อำนาจไม่เป็นธรรมโยกย้าย-ปลด-แต่งตั้งข้าราชการโดยฝ่ายการเมืองอย่างไม่เป็นธรรม หรือเห็นข้าราชการโดนกลั่นแกล้งอย่างไม่เป็นธรรม หรือเป็นนักธุรกิจที่โดนตบทรัพย์จากนักการเมือง โดนรีดไถจากนักการเมืองจากคนในรัฐบาลโดยไม่เป็นธรรม 

หากมีข้อมูลเหล่านี้ขอความร่วมกรุณาส่งข้อมูลให้พรรคอนาคตใหม่ 2วิธี คือ ส่งมาที่ ตู้ปณ. 13 ปณ.ศรีนครินทรวิโรฒ กทม.10117 หรือส่งมายัง E-mail: [email protected]

มาดามเดียร์โต้3ปม-จ่อฟ้องกลับ

ด้านน.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) โพสต์เฟซบุ๊คส่วนตัว ชี้แจงกรณี น.ส.พรรณิการ์ แถลงข่าวพาดพิงว่า ขอชี้แจงความจริง และขอให้หยุดบิดเบือนเผยแพร่ข้อความใส่ร้ายผู้อื่น 1. ดิฉันไม่เคยดำรงตำแหน่งใดๆ และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าวของบริษัท เนชั่นมัลติมีเดียกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) 2. ในอดีตดิฉันได้ประกอบอาชีพโดยสุจริตในฐานะสื่อมวลชน และตั้งแต่ก่อนลงสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ดิฉันได้ลาออกจากทุกตำแหน่ง โอนขายหุ้น ไม่ได้เป็นเจ้าของและมีหุ้นส่วนในกิจการสื่อใดๆทั้งสิ้น 3. ดิฉันขอยืนยันว่าดิฉันเคารพ ปฏิบัติตามกฎหมายและจริยธรรมเกี่ยวกับคุณสมบัติการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอย่างเคร่งครัด

อย่างไรก็ดีขณะนี้ตนกำลังพิจารณาที่จะดำเนินการตามกฎหมายเพื่อให้น.ส.พรรณิการ์มีความรับผิดชอบต่อคำพูดของตนเอง

 

เมินฝ่ายค้านล็อกเป้าปัญหาเศรษฐกิจ

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมความพร้อมอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะเกิดขึ้นในเดือนธ.ค.นี้ โดยเฉพาะประเด็นเศรษฐกิจ ส่วนตัวไม่คิดว่าเรื่องนี้จะเป็นจุดที่คนเราจะมานั่งว่าอะไรกัน เพราะเศรษฐกิจเป็นเรื่องของส่วนรวมของประเทศ

“ครั้งหนึ่งผมจำได้ว่าสมัยม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช สมัยมีชีวิตอยู่ ท่านเคยพูดว่าเรื่องเศรษฐกิจถ้าเอาแต่พูดว่าไม่ดีมันแย่ๆ ความรู้สึกโดยส่วนรวมก็จะไม่ดี ถ้าความรู้สึกส่วนตัวไม่ดีการบริโภคการลงทุนก็จะชะลอตัวเป็นเรื่องปกติ ดังนั้นเราต้องมั่นใจตัวเราเองมองว่าทุกคนในช่วงเวลาแบบนี้ ในขณะที่โลกเป็นแบบนี้ที่ทุกประเทศกำลังลำบาก เราต้องมีความสามัคคีกันทุกฝ่าย ทั้งรัฐ เอกชน ฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลต้องมาช่วยกันคิดว่าจะช่วยกันได้อย่างไร” นายสมคิดกล่าว

วิษณุปัดฟันธงคำตัดสินคดีหุ้นสื่อ

ด้านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่ากรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัยคดีหุ้นสื่อของนายธนาธร ในวันที่20 พ.ย.นี้ หากคำตัดสินออกมาเป็นบวกหรือลบ จะมีผลอย่างไร อย่าพูดกันไปก่อนเลย และรัฐบาลไม่ควรพูดถึงเรื่องนี้ ทั้งนี้ถ้าคำตัดสินมีผลต่อสมาชิกภาพการเป็นส.ส.ของนายธนาธณเป็นการพ้นเฉพาะตัวก็เลื่อนลำดับถัดไปขึ้นมาได้เลย เรื่องนี้มีคำตอบในตัวอยู่แล้ว หรือหากผลตัดสินออกมาในทางบวก เขาก็มาปฎิบัติหน้าที่ส.ส.ได้ตามปกติ ขอให้รอฟังคำวินิจฉัยจากศาลดีกว่า อย่าไปวิเคราะห์หรือคาดเดาอะไรเลย

ส่วนความเคลื่อนไหวคณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญเพื่อศึกษาแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึี่งมีข้อเรียกร้องให้มีบุคคลนอก นายวิษณุกล่าวว่า  ตนไม่มีความเห็น เรื่องนี้ควรให้คนที่อยู่ในวงการมาช่วยกันให้ความเห็นอาทิส.ส.หรือพรรคการเมืองต่างๆ ส่วนความคืบหน้าการส่งรายชื่อกมธ.ในสัดส่วนของรัฐบาล ไปยังวิปรัฐบาล ขณะนี้รัฐบาลส่งรายชื่อไปแล้ว ทั้งนี้เมื่อได้รายชื่อในส่วนรัฐบาลทั้งหมดไม่จำเป็นต้องส่งมาให้ตน

ปกรณ์-อุดม-จรุงวิทย์ติดโผแก้รธน

เช่นเดียวกับนายเทวัญ ลิปตภัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะคณะกรรมการประสานงานรัฐบาล(วิปรัฐบาล) กล่าวว่า ตนได้ส่งรายชื่อกมธ.แก้รัฐธรรมนูญในสัดส่วนของครม. ให้วิปรัฐบาลไปแล้ว 6 คน ซึ่งเป็นคนนอกทั้งหมด แต่อาจมีการเปลี่ยนแปลง เนื่องจากบางรายชื่อที่เสนอไปมีการปฏิเสธและต้องดูความเหมาะสมอีกครั้งซึ่งตนจะหารือกับนายวิษณุ ในการประชุมครม.วันนี้

ผู้สื่อข่าวรายงาน สำหรับรายชื่อกมธ. ในสัดส่วนครม.จำนวน 6 คนได้แก่ นายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) นายสมชาย แสวงการ ส.ว.นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพปชร.นายอุดม รัฐอมฤต อดีตกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.)และพ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการคณะกกต.

โดยก่อนหน้านี้พล.อ.สมเจตน์ ออกมาปฏิเสธไม่ขอรับตำแหน่งดังกล่าว รวมถึงนายสมชาย ที่ไม่ขอรับเป็น กรธ.แก้รัฐธรรมนูญ ด้วยเช่นเดียวกัน ส่งผลให้ผู้เกี่ยวข้องต้องทบทวนบางรายชื่อ โดยนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ขอพิจารณารายชื่อส.ว.มาแทน ก่อนจะส่งให้นายเทวัญในสัปดาห์นี้

พปชร.ยันเสนชื่อสุชาติคุมทีม

นายพุทธิพงษ์ ปุณณกัณต์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ในฐานะกรรมการบริหารและประธานยุทธ์ศาสตร์กทม. พรรคพปชร.กล่าวถึงการหารือกันของพรรคร่วมรัฐบาลเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่ามีการหารือกันมาอย่างต่อเนื่องและมีความคิดเห็นที่หลากหลาย สำหรับในพรรคพลังประชารัฐ ก็มีคนที่เหมาะสมที่จะเป็นประธานกมธ. โดยนายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาฯ ที่พรรคสนับสนุนก็มีความเหมาะสม ขณะเดียวกันก็ไม่ได้ปิดกันคนนอก ก็มองดูคนที่เหมาะสมอยู่เช่นกัน

เรื่องนี้คิดว่าผู้บริหารทุกคนในพรรคคงต้องมีการพูดคุยกัน รวมถึง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรค หรือแม้แต่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่ที่ทุกพรรคให้ความเคารพ ส่วนที่พรรคประชาธิปัตย์ต้องการเสนอนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯ เป็นประธานกมธ.เชื่อว่าไม่มีปัญหาได้พูดคุยกันหมดทุกพรรคในพรรคร่วมรัฐบาลและเชื่อว่ามีแนวทางไปในทิศทางเดียวกัน

นายสมชาย มีเสน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เนชั่น มัลติมีเดียกรุ๊ป ออกแถลงการณ์ จากเนชั่นถึงพรรคอนาคตใหม่ วานนี้(18พ.ย.) กรณีที่พรรคอนาคตใหม่ และน.ส. พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรค แถลงถึงสื่อเครือเนชั่นว่านำเสนอข่าวสารให้เกิดความเข้าใจผิด ด้วยการให้ร้ายต่อพรรคและบุคคลของพรรค ยืนยันว่าเป็นการกล่าวหาเพื่อให้เกิดความเข้าใจผิดต่อเครือเนชั่น ทั้งนี้เครือเนชั่น กำลังพิจารณาในการดำเนินคดีกับ น.ส.พรรณิการ์ และพรรคอนาคตใหม่ ต่อไป