‘ไอวีแอล’มั่นใจธุรกิจพ้นจุดต่ำสุด ลุ้นปีหน้าปริมาณขายโต30%

‘ไอวีแอล’มั่นใจธุรกิจพ้นจุดต่ำสุด ลุ้นปีหน้าปริมาณขายโต30%

‘อินโดรามาฯ’ เชื่อผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในไตรมาส 3 ที่ผ่านมา คาดปริมาณการขายปีหน้ากลับมาเติบโต 30% หนุนจากธุรกิจ ‘ฮันทส์แมน’ จะเริ่มดำเนินการไตรมาส 1 ปีหน้า

นายดิลิป กุมาร์ อากาวาล ประธานเจ้าหน้าที่ กลุ่มธุรกิจ feedstock และ PET บริษัทอินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) หรือ IVL เปิดเผยว่า ผลประกอบการของบริษัทน่าจะผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในช่วงไตรมาส 3 ที่ผ่านมา โดยแรงกดดันหลักมาจากผลขาดทุนจากสต๊อกสินค้าราว 6 พันล้านบาท รวมถึงราคาขายสินค้าหลักอย่าง PET และ MEG ที่ลดลงประมาณ 11% และกว่า 30% ตามลำดับ

อย่างไรก็ตาม จะเห็นว่าปริมาณการขายและรายได้ยังคงเติบโตต่อเนื่องในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา อยู่ที่ 12.3 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 24% โดยการเติบโต 11% มาจากธุรกิจเดิม และอีก 13% มาจากการซื้อกิจการในอินโดนีเซียและอินเดีย ส่วนรายได้ของบริษัทอยู่ที่ 3.67 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% จากช่วง 12 เดือนก่อนหน้านั้น

ในปี 2563 คาดว่าปริมาณการขายของบริษัทจะเติบโตได้ 30% หนุนจากบริษัท ฮันทส์แมน ซึ่งกิจการที่มีมูลค่าสูงสุดที่บริษัทเคยเข้าซื้อกิจการ จะเริ่มดำเนินการในช่วงไตรมาส 1 ปี 2563 โดยในช่วง 18 เดือนหลังจากนี้ บริษัทไม่มีแผนที่จะเข้าซื้อกิจการเพิ่มเติม เพื่อรักษาระดับหนี้สินต่อทุนให้อยู่ในระดับนี้ โดยหนี้สินจากการดำเนินงานต่อทุนปัจจุบันเพิ่มขึ้นจาก 0.61 เท่า เป็น 0.85 เท่า หลังจากซื้อกิจการดังกล่าว

“แรงกดดันต่ออุตสาหกรรมปิโตรเคมีในปีนี้มาจากราคาขายของผลิตภัณฑ์ แต่เชื่อว่าช่วงไตรมาส 3 ที่ผ่านมา น่าจะเป็นจุดต่ำสุดของอุตสาหกรรมแล้ว หลังจากนี้น่าจะเห็นการฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป ขณะที่ผลขาดทุนจากสต๊อกสินค้าก็อาจจะมีเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้นในช่วงไตรมาส 4 นี้”

ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามปีหน้าคือ ประเด็นสงครามการค้าที่ส่งผลกระทบไปทั่วโลก รวมถึงการเติบโตที่ลดลงในประเทศจีน และความไม่แน่นอนในยุโรป อย่างไรก็ตาม มองว่าเศรษฐกิจโลกจะค่อยๆ ฟื้นตัวได้หลังจากนี้ โดยเฉพาะเมื่อสงครามการค้าเริ่มคลี่คลาย

ด้าน บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุว่า ประเมินว่ากำไรสุทธิปี 2563 จะสามารถขยายตัว เนื่องจาก 1) ขาดทุนสต็อกจำนวนมากไม่น่าเกิดขึ้นอีก 2) ปริมาณขายเพิ่มขึ้นจากกำลังผลิตใหม่ราว 4.6 แสนตัน 3) การผลิตราบรื่นขึ้น แผนปิดซ่อมบำรุงใหญ่ลดลง และไม่น่าเกิดเหตุการณ์ปิดซ่อมนอกแผน 4) การรับรู้ผลการดำเนินงานจากการเข้าซื้อสินทรัพย์ของ Huntsman เพิ่มกำลังผลิตรวมเป็น 3.1 ล้านตันต่อปี ประเมินส่วนเพิ่ม EBITDA 8.7 พันล้านบาท และกำไรสุทธิ 3 ปรับราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2563 ลงเป็น 35 บาท อิง P/BV ที่ 1.4 เท่า เพื่อสะท้อนวัฏจักรขาลงของอุตสาหกรรม แม้คาดไตรมาส 3 ที่่ผ่านมา จะเป็นจุดต่ำสุดของ IVL