NBC เดินหน้า3ธุรกิจใหม่ ดันรายได้กระฉูด โชว์เรทติ้งพุ่งต่อเนื่อง ตั้งเป้าปีหน้ารั้งอันดับ8

NBC เดินหน้า3ธุรกิจใหม่ ดันรายได้กระฉูด โชว์เรทติ้งพุ่งต่อเนื่อง ตั้งเป้าปีหน้ารั้งอันดับ8

‘เอ็นบีซี’ ตั้งเป้าปีหน้าเรตติ้ง ‘เนชั่นทีวี’ ขึ้นอันดับ 8 พร้อมรุก 3 ธุรกิจใหม่ ‘ทัวร์-โฮมชอปปิง-อีเวนท์’ โกยรายได้ไม่ต่ำกว่า 55 ล้านต่อเดือน ขณะที่ผู้ถือหุ้นอนุมัติแผนเพิ่มทุน 141 ล้านบาท สร้างสตูดิโอใหม่ ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน

นายฉัตรชัย ภู่โคกหวาย กรรมการผู้จัดการ บริษัท เนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ NBC เปิดเผยถึง แผนการดำเนินธุรกิจในปี 2563 บริษัทตั้งเป้าเรตติ้งช่อง เนชั่นทีวี 22 จะขึ้นมาอยู่อันดับที่ 8 ภายใน 2-3 เดือนนับจากนี้ จากปัจจุบันอยู่อันดับที่ 9 หลังมีการปรับผังรายการใหม่ หนุนรายได้ค่าโฆษณาเติบโตต่อเนื่อง

ทั้งนี้ ตั้งแต่ทีมผู้บริหารชุดใหม่เข้ามาบริหารงานเมื่อเดือนพ.ค. 2561 เรตติ้งและรายได้ค่าโฆษณาของเนชั่นทีวี ค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้น ปัจจุบันมีรายได้ค่าโฆษณาเฉลี่ยประมาณ 40 ล้านบาทต่อเดือน เพิ่มขึ้น 100% เทียบกับช่วงก่อนที่ผู้บริหารปัจจุบันจะเข้ามา อยู่ที่ 21 ล้านบาทต่อเดือน ขณะที่เรตติ้งเพิ่มขึ้นถึง 300% จากจำนวนผู้ชมเฉลี่ย 5 หมื่นคนต่อนาที เพิ่มเป็น 2 แสนคนต่อนาที

“ปีหน้าเรายังพัฒนาในเรื่องของโปรดักชั่น ทำในสิ่งที่ถนัด เงินที่ได้จากการเพิ่มทุนจะนำไปสร้างสตูดิโอใหม่ ตอนนี้เรากำลังเดินไปสู่ยุคที่ความสำเร็จในการทำธุรกิจ ไม่ใช่แค่คุ้มทุนเท่านั้น แต่เราต้องการให้องค์กรแข็งแกร่ง มีวัฒนธรรมองค์กรที่ดี เพื่อให้พนักงานทุกคนอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข”

เขา บอกว่า นอกจากธุรกิจทีวีซึ่งเป็นธุรกิจหลักแล้ว ปีหน้าบริษัทมีแผนต่อยอดหารายได้ใหม่ๆ จากธุรกิจเดิมที่ถนัด ได้แก่ ธุรกิจทัวร์ (Experience) ตั้งเป้ารายได้ 20 ล้านบาทต่อเดือน, ธุรกิจจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางโทรทัศน์ (Home Shopping) โดยตั้งใจจะเป็นสื่อกลางในการนำสินค้าท้องถิ่นของชาวบ้านในชุมชนต่างๆ ทั่วประเทศมาจำหน่าย ตั้งเป้ารายได้ 30 ล้านบาทต่อเดือน และ ธุรกิจการจัดกิจกรรม (Event) ตั้งเป้ารายได้ 4-5 ล้านบาทต่อเดือน

“รายได้จากธุรกิจใหม่จะเริ่มเข้ามาอย่างชัดเจนตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป ถือเป็นการต่อยอดรายได้ใหม่จากฐานลูกค้าเดิมที่เรามีอยู่ สัดส่วนรายได้น่าจะรวมกันไม่ต่ำกว่า 50-70% ของรายได้รวมทั้งหมด ส่วนที่เหลือเป็นธุรกิจหลักที่การขึ้นค่าโฆษณาอาจทำได้ยากขึ้น”

ทั้งนี้ ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 2/2562 ได้มีมติลดทุนจดทะเบียนของบริษัทจำนวน 184,907,153 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิมจำนวน 720,343,962 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่จำนวน 535,436,809 บาท ด้วยการตัดหุ้นสามัญในส่วนที่ยังมิได้มีการออกจำหน่ายของบริษัทจำนวน 184,907,153 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท โดยหุ้นสามัญดังกล่าวเป็นหุ้นที่จัดสรรเพื่อรองรับการใช้สิทธิแปลงสภาพของ NBC-WA, NBC-W1 และ NBC-WB 

จากนั้นให้เพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทอีกจำนวน 267,718,405 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิมจำนวน 535,436,809 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่จำนวน 803,155,214 บาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 267,718,405 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท โดยเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทตามสัดส่วนจำนวนหุ้นที่ผู้ถือหุ้นแต่ละรายถืออยู่ในอัตรา 2 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นสามัญเพิ่มทุน ในราคาหุ้นละ 0.53 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุนรวมทั้งหมด 141,890,754.65 บาท

กำหนดระยะเวลาเสนอขายตั้งแต่วันที่ 18 ถึง 24 ธ.ค. 2562 หรือ ในช่วงระยะเวลาอื่นใดที่คณะกรรมการบริหาร หรือ กรรมการผู้จัดการ หรือ บุคคลที่คณะกรรมการบริหาร หรือ กรรมการผู้จัดการกำหนด โดยมีระยะเวลาไม่น้อยกว่า 5 วันทำการ และไม่เกินเดือน ก.พ. 2563 โดยบริษัทได้กำหนดวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่จะมีสิทธิได้รับจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนตามสัดส่วนการถือหุ้นในวันที่ 26 พ.ย. 2562

สำหรับเงินที่ได้รับจากการเพิ่มทุนในครั้งนี้จะนำไปใช้ลงทุนรองรับการขยายตัวของธุรกิจหลักของบริษัทที่มุ่งเน้นการเป็นผู้ผลิตรายการโทรทัศน์และให้บริการข่าวสารโฆษณาผ่านสื่อโทรทัศน์อย่างครบวงจรและสื่อรูปแบบใหม่ (New Media) รวมไปถึงการพัฒนารูปแบบการหารายได้อื่นๆ โดยการนำเนื้อหาสาระ (Content) และข้อได้เปรียบด้านต่างๆ จากการประกอบธุรกิจสื่อโทรทัศน์มาต่อยอดขยายไปสู่ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง

โดยบริษัทจะปรับปรุง และ/หรือก่อสร้างส่วนเพิ่มเติมสำหรับการสร้างห้องสตูดิโอ ห้องอบรม ห้องสัมมนา ห้องรับรองลูกค้า และสำนักงานของบริษัท รวมถึงการซื้ออุปกรณ์และเครื่องมือที่เกี่ยวข้อง โดยคาดว่าจะใช้เวลาดำเนินการแล้วเสร็จภายในไตรมาส 1 ปี 2563 และต้องใช้เงินลงทุนในส่วนนี้ประมาณ 120 ล้านบาท นอกจากนี้ จะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนและรองรับการดำเนินงานปกติของบริษัท ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง และการต่อยอดธุรกิจของบริษท และ/หรือบริษัทย่อย อีกประมาณ 21.89 ล้านบาท