'ประยุทธ์' ลงนาม '3มหาอำนาจ' ร่วมมือทางทหาร

'ประยุทธ์' ลงนาม '3มหาอำนาจ' ร่วมมือทางทหาร

"พล.อ.ประยุทธ์" ต้อนรับ "รมว.กลาโหม” สหรัฐฯ-ญี่ปุ่น-จีน ชูฝึก "Cobra Gold" เสริมสร้างศักยภาพกองทัพ ลงนามข้อตกลงทางการทหารราบรื่น

พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกลาโหม กล่าวภายหลังพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้ให้การต้อนรับนายมาร์ค เอสเปอร์ รมว.กลาโหมสหรัฐอเมริกา ในโอกาสเดินทางเยือนไทย เพื่อเข้าร่วมประชุม ADMM - Plus โดยทั้งสองฝ่าย ชื่นชมและเน้นย้ำความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างไทย - สหรัฐฯ ในฐานะพันธมิตรเก่าแก่

โดยพล.อ.ประยุทธ์ ยืนยันว่าความสัมพันธ์ ไทยกับสหรัฐฯ มีความผูกพันมายาวนาน และมีรากฐานที่มั่นคง ที่พัฒนามาจากความร่วมมือทางทหาร เศรษฐกิจ และการค้า ทั้งนี้ ความร่วมมือทางทหารระหว่างสองประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการศึกษา และการฝึก Cobra Gold มีส่วนสำคัญในการเสริมสร้างศักยภาพของกองทัพ และขีดความสามารถในการปฏิบัติการร่วมกัน จากนั้นได้ร่วมลงนามในแถลงการณ์วิสัยทัศน์ร่วมระหว่าง ไทย - สหรัฐอเมริกา ค.ศ. 2020 ว่าด้วยการเป็นพันธมิตรด้านการป้องกันประเทศ

ขณะเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ ยังได้ให้การต้อนรับการเยี่ยมคำนับของ นายโคโนะ ทะโร รมว.กลาโหมญี่ปุ่นในโอกาสเดินทางเยือนไทย เพื่อเข้าร่วมประชุม ADMM - Plus โดยทั้งสองฝ่ายได้ชื่นชมความสัมพันธ์ทางการทูตและความสัมพันธ์ระหว่างราชวงศ์ที่แน่นแฟ้นยาวนาน และยินดีที่ความสัมพันธ์ทางทหารระหว่างกันมีความคืบหน้าไปมาก

จากนั้น มีการร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงระหว่างกระทรวงกลาโหมกับกระทรวงกลาโหมญี่ปุ่น ว่าด้วยความร่วมมือและการแลกเปลี่ยนทางทหาร ซึ่งจะเป็นกรอบของการส่งเสริมความร่วมมือด้านความมั่นคงและการทหารร่วมกันด้านต่างๆ

นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังให้การต้อนรับให้การต้อนรับพล.อ.เว่ย เฟิ่งเหอ มนตรีแห่งรัฐ และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยทั้งสองฝ่ายได้ชื่นชมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่ยั่งยืนและยาวนาน และเห็นพ้องร่วมกัน

อ่านข่าว-'ประยุทธ์' ขอส่งจนท.ไปจีน ศึกษาแก้ปัญหายากจน 

157400781680

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม และพล.อ.เว่ย เฟิ่งเหอ มนตรีแห่งรัฐ และ  รมว.กลาโหม ประเทศจีน ร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงกลาโหมทั้งสองประเทศ ซึ่งใช้เป็นกรอบการทำงานในการส่งเสริมความร่วมมือด้านการป้องกันประเทศ

โดย พล.อ.ประยุทธ์ ยืนยันว่า ไทยพร้อมสนับสนุน หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง และแสวงความร่วมมือในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมระหว่างกัน เพื่อให้เกิดการเติบโตและเข้มแข็งไปด้วยกัน และย้ำว่าความมั่นคงเป็นพื้นฐานสำคัญของเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ

จากนั้น ได้ร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงกลาโหมทั้งสองประเทศ ซึ่งใช้เป็นกรอบการทำงานในการส่งเสริมความร่วมมือด้านการป้องกันประเทศ บนพื้นฐานหลักความเท่าเทียมกัน ผลประโยชน์ร่วมกันและเคารพอย่างเต็มที่ต่ออำนาจอธิปไตยและบูรณภาพเหนือดินแดน โดยมีขอบเขตความร่วมมือ ด้านการแลกเปลี่ยนการเยือน การฝึกและศึกษา ความร่วมมือด้านข่าวกรองและข่าวสาร รวมทั้งการเสริมสร้างขีดความสามารถทางทหารระหว่างกัน

พล.ท.คงชีพ กล่าวว่า การลงนามความร่วมมือและแถลงวิสัยทัศน์ที่กระทรวงกลาโหมทำกับแต่ละประเทศมหาอำนาจทั้ง 3 ชาติในภูมิภาค แสดงถึงสถานะความสำคัญและบทบาทนำของประเทศไทยในภูมิภาค ซึ่งเป็นการเพิ่มพูนความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างประเทศระดับทวิภาคี ในลักษณะเปิดกว้างและสมดุลกับทุกประเทศ โดยเฉพาะการเสริมสร้างขีดความสามารถทางทหาร