พชร อารยะการกุล เจ้าของสูตร 'ทรานส์ฟอร์ม' องค์กรยุคใหม่

“เม็ดเงินที่ค้าปลีกใส่ลงไปเพื่อทรานส์ฟอร์ม เชื่อว่าอีก 1-2 ปี จะเห็นชัดเจนขึ้น ผมว่ามันมี Impact อย่างปีนี้ยอดตัวเลขค้าปลีกตกลงถึง 30% หนึ่งในกลยุทธ์ที่ค้าปลีกจะใช้จากนี้ คือ การทำตลาดแบบมัลติแชนนัล ทำทุกช่องทาง ไม่ใช่เฉพาะออนไลน์อย่างเดียว ใช้วิธีสร้างประสบการณ์การซื้อ ทำอย่างไรให้คนซิื้อมีความสุข มั่นใจ อย่างกลุ่มสินค้าเสื้อผ้าในออนไลน์เติบโตมาก แต่ส่วนใหญ่ยังเลือกซื้อออฟไลน์ เพราะต้องลอง ดังนั้นออนไลน์อาจยังไม่เติมเต็ม100% ผู้ค้าอาจต้องใช้วิธีที่เป็น Physical มากขึ้น"

“คน”สำคัญกว่า “ซื้อเทคโนโลยี” 

ขณะที่ กลุ่มภาครัฐ เป็นหนึ่งในกลุ่มที่ต้องเห็นความสำคัญของการทรานส์ฟอร์มมากขึ้นเช่นกัน “พชร” บอกว่า เพราะภาครัฐมีบทบาทสำคัญโดยเฉพาะการให้บริการสาธารณะ ขณะที่ข้อจำกัดยังมีอยู่มาก เพราะต้องผ่านการพิจารณาหลายขั้นตอน

“ผมมองว่า การทรานส์ฟอร์มในกลุ่มภาครัฐ สำคัญมากเพราะเป็นต้นทางในหลายๆ เรื่อง เช่น บริการสาธารณะ โครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ” 

ปัจจุบัน ธนาคาร ถือเป็นกลุ่มที่มีการทรานส์ฟอร์มมากที่สุด ตามด้วยกลุ่มค้าปลีก ประกัน และเทเลคอม ที่เห็นการตื่นตัว และต่อยอดหาโมเดลทางธุรกิจรูปแบบใหม่ๆ 

“การทำดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่น สิ่งสำคัญไม่ใช่การซื้อเทคโนโลยี แต่คือการคิดเรื่องกลยุทธ์ และ เรื่องคน ต้องเริ่มที่คนเป็นหลัก หลายองค์กรมักเจอปัญหานี้ คนในองค์กรต้องเปลี่ยนมายด์เซ็ท หรือกรอบคิด แต่ถ้าไม่สามารถทำได้ ก็จำเป็นต้องหาพาร์ทเนอร์ หรือที่ปรึกษาเข้ามาช่วย ซึ่งบลูบิคทำหน้าที่นี้ได้”

ที่ปรึกษา“ทรานส์ฟอร์ม”ยุคดิจิทัล

พชร บอกว่า การเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วด้วยเทคโนโลยีส่งผลให้ภาคธุรกิจต้องเร่งวางกลยุทธ์ในการปรับเปลี่ยนองค์กร ด้วยการเลือกใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เหมาะสม โดยไม่มีเวลาลองผิดลองถูกด้วยตนเอง ยิ่งปรับตัวช้าจะส่งผลต่อธุรกิจอย่างมหาศาล ธุรกิจที่ปรึกษาจึงเข้ามามีบทบาทสำคัญในการนำพาองค์กรให้แข่งขันได้

ปีที่ผ่านมาธุรกิจที่ปรึกษาด้านดิจิทัลและการใช้เทคโนโลยีในไทยโตเพิ่มขึ้นถึง 20% ซึ่งธุรกิจที่ปรึกษาด้านที่เติบโต ส่วนใหญ่เป็นปรึกษาด้านกลยุทธ์ดิจิทัล ที่ปรึกษาด้านข้อมูลขนาดใหญ่ หรือบิ๊กดาต้า ที่ปรึกษาด้านปัญญาประดิษฐ์  และที่ปรึกษาด้านการบริหารแบบคล่องตัวสูง (Agile management)

บลูบิค มีบริการหลักๆ ไม่ว่าจะเป็นการวางกลยุทธ์ด้านดิจิทัลให้ลูกค้าได้ไปต่อ การออกแบบนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ บริการด้านไอที เซอร์วิส บริการที่ปรึกษาด้านบิ๊กดาต้า ฯลฯ 

“ที่ผ่านมา บลูบิค มีงานที่ปรึกษาให้บริษัทชั้นนำในหลายธุรกิจหลักๆ ทั้งการเงินและประกันภัย โทรคม อสังหา พลังงาน ยานยนต์ อุปโภคบริโภค จุดแข็งของเราคือความเข้าใจองค์กรและผู้บริโภคไทยมากที่สุด ส่งมอบงานด้วยการเปลี่ยนถ่ายจากความคิดสู่การปฏิบัติได้จริงในธุรกิจ นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีเข้ามาตอบโจทย์ลูกค้าและวางยุทธศาสตร์ " 

พชร เชื่อว่า ภาพรวมธุรกิจที่ปรึกษาของ “บลูบิค” ยังเติบโตได้ต่อเนื่อง ซึ่งปีนี้เติบโตกว่า 40% และมีแผนเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในอีก 3 ปีข้างหน้า หรือประมาณปี 2565