บาทแข็ง-ศก.ชะลอ พ่นพิษ! โรงแรมกลุ่มเซ็นทรัล หั่นงบ 6 พันล้าน3ปี

บาทแข็ง-ศก.ชะลอ พ่นพิษ! โรงแรมกลุ่มเซ็นทรัล หั่นงบ 6 พันล้าน3ปี

“เซ็นเทล” หั่นเงินลงทุนธุรกิจโรงแรม-อาหารช่วง 3 ปีนี้ ลงจาก 2.7 หมื่นล้านบาท เหลือ 2.1 หมื่นล้านบาท สอดคล้องเศรษฐกิจ ส่อรายได้ธุรกิจโรงแรมปีนี้พลาดเป้า เหตุบาทแข็ง ทัวริสต์เบนเข็มพักอพาร์ทเมนต์-บ้านพัก จำนวนห้องพักล้นเกินดีมานด์

ในช่วงปลายปี หลายๆ ธุรกิจถึงคราวระดมสมองเร่งทบทวนแผนการลงทุนและการทำตลาดในปีถัดไป รวมถึงแผนระยะสั้น2-3ปี ว่าต้องปรับแผนอย่างไรให้สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจและกำลังซื้อของทั้งชาวไทยและต่างชาติ หนึ่งในนั้นคือธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรม ที่ปีนี้เผชิญผลกระทบค่อนข้างมากจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัว และค่าเงินบาทที่แข็งค่า

นายรณชิต มหัทธนะพฤทธิ์ รองประธานอาวุโสฝ่ายการเงินและบริหาร บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซ่า จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL กล่าวว่า บริษัทฯได้ปรับลดวงเงินค่าใช้จ่ายสำหรับการลงทุน (CAPEX)ธุรกิจโรงแรมในเครือเซ็นทาราและธุรกิจอาหารช่วง3ปี ตั้งแต่ปี2562-2564ลงมาอยู่ที่21,000ล้านบาท จากเดิมเคยวางกรอบไว้ที่27,000ล้านบาท หรือลดลง 6,000 ล้านบาท ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ของเศรษฐกิจและธุรกิจในปัจจุบัน รวมถึงความเป็นไปได้ของการลงทุนที่เหมาะสม

สำหรับCAPEXของบริษัทฯที่เพิ่งปรับลดลงมา แบ่งเป็นเงินลงทุนสำหรับธุรกิจอาหาร5,428ล้านบาท คิดเป็น26%และธุรกิจโรงแรมในเครือเซ็นทารา15,560ล้านบาท คิดเป็น74%ซึ่งแบ่งย่อยลงไปอีกสำหรับค่าใช้จ่ายในการพัฒนาและปรับปรุงโรงแรมที่มีอยู่แล้ว13,466ล้านบาท และโครงการที่มีศักยภาพในอนาคตอีก2,095ล้านบาท

“9เดือน”กำไรสุทธิลด24.9%

หลังจากผลประกอบการใน9เดือนแรกของปี2562 บริษัทฯมีกำไรสุทธิ 1,273 ล้านบาท ติดลบ 24.9% จากรายได้รวม 15,833 ล้านบาท ติดลบ 2.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว เมื่อดูเฉพาะธุรกิจอาหาร มีรายได้ 9,194 ล้านบาท เพิ่มขึ้น2.7% ส่วนธุรกิจโรงแรมมีรายได้ 6,638 ล้านบาท ลดลง9% ส่วนหนึ่งมาจากการปิดปรับปรุงโรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ บีช รีสอร์ท สมุย เมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา

ขณะที่ผลกระทบหลักของธุรกิจโรงแรมคือเรื่องปัจจัยค่าเงิน ทั้งเงินบาทที่แข็งค่ากว่า7%ขณะที่เงินหยวนอ่อนค่า และเงินรูเบิลรัสเซียที่ค่าลดลงเช่นกัน ส่งผลให้นักท่องเที่ยวระมัดระวังการจับจ่าย หันไปเข้าพักตามอพาร์ทเมนต์และบ้านพักมากขึ้น สอดคล้องกับที่แอร์บีแอนด์บี (Airbnb)แพลตฟอร์มจองที่พักระยะสั้นระดับโลกประกาศว่ามียอดการเข้าจองที่พักระยะสั้นมากขึ้น ขณะเดียวกันดีมานด์นักท่องเที่ยวกลับเติบโตแพ้การขยายตัวของซัพพลายโรงแรมและที่พัก เห็นได้จาก9เดือนแรก มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทยกว่า29.4ล้านคน เติบโตเพียง3.2%

รายได้โรงแรมปีนี้ส่อพลาดเป้า

ด้านสถานการณ์ธุรกิจในไตรมาส4ปีนี้ซึ่งตรงกับช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวหรือไฮซีซั่น ยังต้องจับตาว่าภาพรวมนักท่องเที่ยวต่างชาติจะยังฟื้นตัวดีต่อเนื่องหรือไม่ รวมถึงผลลัพธ์ของมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวและการจับจ่ายต่างๆ ของรัฐบาล เพื่อผลักดันยอดนักท่องเที่ยวให้ถึงเป้าหมาย มีชาวต่างชาติเที่ยวไทยราว40ล้านคน เพิ่มขึ้น3%เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

“บริษัทฯมองว่าปีนี้เป็นปีที่ต้องเอาตัวรอดให้ได้ เพราะเมื่อดูจากผลประกอบการแล้วก็ยังยืนระยะได้ ส่วนธุรกิจโรงแรม ยอมรับว่ารายได้อาจไม่เป็นไปตามเป้าหมายจากเดิมที่เคยตั้งไว้7%เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และยังต้องลุ้นว่าไตรมาสที่4จะกลับมาดีขึ้นหรือไม่ โดยยังหวังว่าบรรยากาศของงานเทศกาลท้ายปีจะช่วยกระตุ้นการจับจ่าย”

ส่วนปี2563คาดว่าโครงการโรงแรมเปิดใหม่จะเข้ามาช่วยขับเคลื่อนรายได้ของบริษัทฯ และยังเป็นปีที่เครือเซ็นทารารับบริหารโรงแรมใหม่เพิ่มขึ้นอีกจำนวนมาก จึงวางเป้าการเติบโตปีหน้าของกลุ่มธุรกิจโรงแรมที่10%ส่วนธุรกิจอาหารอยู่ที่5-7%เมื่อเทียบกับปีนี้

หลังภาพเศรษฐกิจมหภาคมีแนวโน้มขยายตัวค่อนข้างดี โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์ว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเยือนไทยเติบโต5%หรือเพิ่มเป็นเกือบ42ล้านคน ส่วนใหญ่เป็นการเดินทางจากนักท่องเที่ยวกลุ่มอาเซียน ด้านนักท่องเที่ยวอินเดียก็น่าจะเติบโตสูงต่อเนื่อง ขณะที่นักท่องเที่ยวจีนก็น่าจะดีขึ้น แม้ว่าที่ผ่านมาจะฟื้นตัวช้าไป เพิ่งกลับมาดีเมื่อราวเดือน ก.ย.-ต.ค.ที่ผ่านมา จากควรที่จะกลับมาดีตั้งแต่เดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุเรือล่มที่ จ.ภูเก็ต เมื่อเดือน ก.ค.2561

ขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และกูรูด้านเศรษฐกิจหลายสำนักก็มองคล้ายกันว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือจีดีพีน่าจะเติบโต3%มากกว่าปีนี้ที่คาดว่าจะอยู่ที่2.7-2.8%

เตรียมเปิดโรงแรม33แห่งใน6ปี

นายกันย์ ศรีสมพงษ์ ผู้ช่วยรองประธานฝ่ายการเงินและบริหารสินทรัพย์ CENTEL กล่าวเสริมว่า เครือเซ็นทาราจะมีโรงแรมรวมทั้งหมด75แห่ง คิดเป็น 14,402 ห้องพักในปี2567เพิ่มจากปัจจุบันมีโรงแรมเปิดให้บริการแล้ว42แห่ง แบ่งเป็นในไทย36แห่ง และต่างประเทศ6แห่ง คิดเป็นจำนวนห้องพักรวม 7,880 ห้องพัก

และเตรียมเปิดให้บริการโรงแรมใหม่ในช่วง6ปีนับจากนี้ ตั้งแต่ปี2562-2567อีก33แห่ง แบ่งเป็นโรงแรมในไทย12แห่ง และต่างประเทศ21แห่ง คิดเป็น 6,522 ห้องพัก โดยเป็นโรงแรมใหม่ที่เครือเซ็นทาราเป็นเจ้าของ4แห่ง ได้แก่ โรงแรมโคซี่ พัทยา นาเกลือ ขนาด282ห้องพัก ซึ่งจะเปิดให้บริการในวันนี้ (15พ.ย.), โรงแรมเซ็นทารา เดียร์รา ไอแลนด์ บีช รีสอร์ท ดูไบ ขนาด607ห้องพัก ซึ่งเครือเซ็นทาราได้ร่วมลงทุนในสัดส่วน40%เตรียมเปิดให้บริการไตรมาสที่4ปี2563, โรงแรมโคซี่ เชียงใหม่141ห้อง เปิดปี2564และโรงแรมอีก2แห่งที่มัลดีฟส์ รวม310ห้องพัก เปิดภายในปี2565ทั้งนี้ยังไม่นับรวมโรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ โอซาก้า ที่บริษัทฯเข้าไปร่วมทุนในสัดส่วน51%และเพิ่งเซ็นสัญญาไป มีกำหนดเปิดกลางปี2566

เล็งซื้อ-ควบรวมฯ2ดีลอาหาร

นอกจากนี้ยังมีแผนปิดปรับปรุงโรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ บีช รีสอร์ท สมุย ใช้เงินลงทุนรวม1,200ล้านบาท ส่วนโรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัล เวิลด์ จะเป็นการทยอยปรับปรุง ใช้เงินลงทุนรวม670ล้านบาท เป็นไปตามกลยุทธ์การปรับปรุงโรงแรมให้ดูใหม่ เพิ่มความสามารถในการแข่งขัน

ด้าน นางสาวนันทวัน วัชรโกมลพันธ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายบัญชีและการเงิน CENTEL กล่าวเสริมว่า สำหรับการขยายธุรกิจอาหารของบริษัท มีแผนการควบรวมและซื้อกิจการ (M&A)ในประเทศจำนวน2ดีล และแผนการร่วมลงทุนในต่างประเทศอีก1ดีลเพิ่มเติม จากเมื่อไตรมาส3ที่ผ่านมา บริษัทฯมีแบรนด์ร้านอาหารรวม14แบรนด์ คิดเป็นจำนวนสาขาทั้งหมด1,029สาขา เพิ่มขึ้น107สาขา หรือคิดเป็น11.6%เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว