‘คลัง’สั่งเพิ่มดอกเบี้ยบอนด์ออมทรัพย์ หวังมอบของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน

‘คลัง’สั่งเพิ่มดอกเบี้ยบอนด์ออมทรัพย์ หวังมอบของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน

“อุตตม”มอบของขวัญปีใหม่ประชาชน สั่งสบน.เพิ่มอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรออมทรัพย์ให้สูงกว่าราคาตลาด เน้นขายรายย่อยกลุ่มผู้สูงอายุ คาดออกได้ก่อนสิ้นปีนี้วงเงิน 5 พันล้านบาท ราคาขายหน่วยละ 1 พันบาท

นางแพตริเซีย มงคลวนิช ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ(สบน.) เปิดเผยว่า สบน.มีแผนที่จะออกพันธบัตรออมทรัพย์วงเงิน 5 พันล้านบาท เสนอขายแก่ประชาชนทั่วไปในช่วงก่อนปลายปีนี้ โดยพันธบัตรออมทรัพย์นี้ จะถือเป็นของขวัญปีใหม่ให้แก่ประชาชนผู้ที่ต้องการออมเงิน ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายอุตตม สาวนายน ได้มอบนโยบายให้สบน.เสนออัตราดอกเบี้ยให้สูงกว่าอัตราปกติของตลาด

ทั้งนี้ สบน.อยู่ระหว่างการพิจารณาอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับที่เหมาะสมและจูงใจให้ประชาชนเข้าออม พร้อมทั้ง จะพิจารณาให้ผู้สูงอายุได้รับสิทธิ์การเข้าซื้อมากกว่าประชาชนทั่วไปอีกด้วย เพื่อช่วยเหลือผู้สูงอายุที่ส่วนใหญ่จะมีรายได้จากอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก

นางแพทริเซียกล่าวด้วยว่า รูปแบบพันธบัตรออมทรัพย์ดังกล่าว จะมีความแตกต่างจากพันธบัตรออมทรัพย์ที่เคยออกไปก่อนหน้านี้ แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่ราคาขายต่อหน่วยจะอยู่ที่ 1 พันบาทเท่ากับพันธบัตรออมทรัพย์ที่เสนอขายแก่ประชาชนรายย่อยในปัจจุบัน

ทั้งนี้ นช่วงครึ่งแรกของปีงบประมาณ 2563 นี้ สบน.มีแผนที่จะออกพันธบัตรออมทรัพย์วงเงินรวมประมาณ 2.5 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นพันธบัตรออมทรัพย์ที่จะเสนอขายในก่อนสิ้นปีนี้รวม 2 หมื่นล้านบาท และ พันธบัตรออมทรัพย์ที่จะนำระบบบล็อกเชนมาช่วยในการเสนอขายอีก 5 พันล้านบาทในช่วงเดือนเม.ย.-พ.ค.ปี 2563 ด้วย ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรออมทรัพย์เฉลี่ยที่ประมาณ 3.00%

นางแพทริเซียกล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมา สบน.ได้ออกพันธบัตรออมทรัพย์เพื่อเสนอขายรายย่อยมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ปัจจุบันพันธบัตรออมทรัพย์มีสัดส่วนราว 5% ของการระดมทุนในรูปแบบต่างๆของรัฐบาล โดยนักลงทุนที่เข้าซื้อส่วนใหญ่จะเป็นผู้สูงอายุ ดังนั้น ในช่วงนับจากนี้ไป สบน.จะหันมาจูงให้ให้คนรุ่นใหม่หันมาออมเงินผ่านการลงทุนพันธบัตรออมทรัพย์ให้มากขึ้น โดยจะนำระบบบล็อกเชนเข้ามาช่วยในการเสนอขาย

ทั้งนี้ ขณะนี้ สบน.ได้พัฒนาระบบบล็อกเชนเพื่อช่วยเสนอขายหรือการออมผ่านพันธบัตรรัฐบาล ซึ่งจะทให้การจำหน่าย รวมถึง การรับฝากหลักทรัพย์มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ทำให้ประชาชนทุกระดับชั้นสามารถเข้าถึงการออมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งเสริมให้เกิดความคล่องตัวทั้งในตลาดแรกและขยายตัวสู่ตลาดรองในอนาคต

“ระบบบล็อกเชนจะช่วยให้ประชาชนเข้าถึงการจองซื้อพันธบัตร เพิ่มความสะดวกในการบริหารจัดการพอร์ตลงทุนของตัวเอง โดยระบบนี้ จะลดระยะเวลาในกระบวนการออกใบพันธบัตรทั้งหมดจากเดิม 15 วันเหลือไม่ถึง 2 วัน โดยรัฐบาลจะเริ่มออกพันธบัตรออมทรัพย์รัฐบาลผ่านระบบบล็อกเชนในช่วงพ.ค.2563”