ดีเอสไอออกหมายเรียก ‘ดีเจแมน-ใบเตย’ ให้ปากคำคดีแชร์ FOREX 3D 

ดีเอสไอออกหมายเรียก ‘ดีเจแมน-ใบเตย’ ให้ปากคำคดีแชร์ FOREX 3D 

ดีเอสไอออกหมายเรียก ‘ดีเจแมน-ใบเตย’ ให้ปากคำคดีแชร์ FOREX 3D คิวต่อไป "พิงค์กี้-แม่"

เมื่อวันที่ 14 พ.ย.62 นายปิยะศิริ วัฒนวรางกูร ผอ.กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ กล่าวถึงความคืบหน้าการสอบสวนคดีแชร์แม่มณี ว่า ดีเอสไอได้ทยอยรับสำนวนคดีแชร์แม่มณีจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งส่งต่อมายังดีเอสไอแล้วกว่า 200 สำนวน ขั้นตอนหลังจากนี้ดีเอสไอได้ระดมพนักงานสอบสวนทั้งหมดกระจายลงพื้นที่สอบปากคำพยานผู้เสียหายในคดีทุกปาก

จากนั้น จะจำแนกรายที่เป็นแม่ข่าย หรือแม่สายออกมาดำเนินคดีฐานร่วมกันกู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน เพื่อหยุดยั้งวงจรความเสียหายของแชร์ลูกโซ่ ที่ผ่านมาแม่ข่ายจะอ้างตัวเป็นผู้เสียหายจากการนำเงินมาร่วมลงทุน แต่หากข้อเท็จจริงในคดีพบองค์ประกอบความผิดครบถ้วน มีพฤติการณ์ชักชวนบุคคลอื่นให้มาร่วมลงทุนตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป แม้ผู้ที่ถูกชักชวนให้ร่วมลงทุนจะเป็นญาติพี่น้องหรือเพื่อนสนิท ก็ต้องถูกแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีในฐานะแม่ข่ายแชร์ลูกโซ่ โดยดีเอสไอมองว่าแชร์ลูกโซ่เกิดมาจากแนวคิดหรือไอเดียของท้าวแชร์ แต่ระบาดสร้างความเสียหายหนักเพราะแม่ข่าย จำเป็นต้องใช้ยาแรงเข้าดำเนินการเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง

นายปิยะศิริ กล่าวถึงการสอบสวนคดีแชร์ FOREX 3D ว่า เบื้องต้นพบการนำเงินไปลงทุนเทรดหุ้นในต่างประเทศจำนวนหนึ่ง แต่ไม่พบการนำเงินที่ได้จากการระดมทุนนับพันล้านบาทไปลงทุนเทรดหุ้นแน่นอน นอกจากนี้จากการตรวจสอบกับธนาคารแห่งประเทศไทยได้รับการยืนยันว่า กระทรวงการคลังยังไม่เคยมีการให้ใบอนุญาตแก่บุคคลหรือนิติบุคคลที่ไม่ใช่ธนาคารและบริษัทหลักทรัพย์ในการซื้อขายหรือแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศทางอินเทอร์เน็ต ในส่วนของ ธปท. ก็ไม่อนุญาตให้โอนเงินไปต่างประเทศเพื่อชำระธุรกรรมซื้อขายเงินตราต่างประเทศ (FOREX) อย่างไรก็ตาม เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้เสียหายแชร์ลูกโซ่และให้เกิดความรวดเร็วในการสอบสวน ดีเอสไอได้พัฒนาคิวอาร์โค้ทสำหรับลงทะเบียนแจ้งความเสียหายใหม่ โดยจะจัดระบบให้จองคิวลงทะเบียน พร้อมแยกการลงทะเบียนตามภูมิลำเนาของผู้เสียหาย เพื่อจัดคิวให้พนักงานสอบสวนของศูนย์ภาคสอบปากคำผู้เสียหายด้วย

แหล่งข่าวจากดีเอสไอ เปิดเผยว่า ภายหลังดีเอสไอรับคดีแชร์ FOREX 3D เป็นคดีพิเศษได้เร่งตรวจสอบเส้นทางการเงิน และทยอยอายัดทรัพย์สินที่ได้ไปจากการกระทำความผิด โดยพบว่าเงินส่วนใหญ่ถูกนำไปใช้สร้างภาพความร่ำรวย และสังสรรค์ปาร์ตี้กับเหล่าดารานักแสดง