พาณิชย์ โว ลุยตลาดจีน-สหรัฐ นำเงินเข้าไทย 16,000 กว่าล้านบาท

พาณิชย์ โว ลุยตลาดจีน-สหรัฐ นำเงินเข้าไทย 16,000 กว่าล้านบาท

"จุรินทร์”  โชว์ผลงานนำทีมไทย เจาะตลาดขายสินค้าในจีนและสหรัฐ ทะลุ 16,780 ล้านบาท  พร้อมเดินทางไปตุรกี-เยอรมันสุดสัปดาห์นี้ขายยางพารา -อาหาร

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์  เปิดเผยถึงผลสำเร็จในการเยือนประเทศสหรัฐอเมริกาและจีนในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า  การเดินทางไปจีนได้เข้าร่วมงาน  China International Import Expo (CIIE)  โดยมีผู้ประกอบการไทยเข้าร่วม 46 ราย และสามารถขายสินค้าไทยได้รวมมูลค่าถึง 2,000 ล้านบาท และมีโอกาสประชาสัมพันธ์สินค้าไทยผ่านสื่อรายสำคัญๆ เช่น สถานีโทรทัศน์ CCTV, People Daily, Shanghai Daily, Weibo และ Economic Daily และร่วมกับ Bank of China นำผู้ประกอบการเข้าร่วมกิจกรรม Business matching จำนวน 40 ราย เปิดตัว TOPTHAI Flagship Store บน Tmall Global ของ Alibaba Group เพื่อผลักดันสินค้าแบรนด์ไทย รวมทั้งสินค้าผลไม้ และอาหารไทยเข้าสู่ตลาดจีน ภายใต้ร้าน Thailand Food Country Official Store บน Tmall.com  ตั้งเป้ามีผู้ประกอบการไทยเข้าร่วมไม่น้อยกว่า 100 บริษัท สร้างยอดขายได้ไม่น้อยกว่า 1,200 ล้านบาทใน 3 ปี

                   มีการหารือกับตลาดหลงอู๋ ซึ่งเป็น 1 ใน 3 ตลาดนำเข้า ค้าส่ง ค้าปลีก ผลไม้ที่ใหญ่ที่สุดในเซี่ยงไฮ้ ในการจัดกิจกรรมเปิดตัวโครงการส่งเสริมผลไม้ทั่วจีน 7 แห่งพร้อมกันในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2563 ซึ่งได้รับความมั่นใจว่าโอกาสผลไม้ไทยในตลาดยังมีอีกมาก โดยเฉพาะ ทุเรียน มะพร้าวสด มังคุด ลำไย มะม่วง โดยในปี 2563 มูลค่าการนำเข้าผลไม้รวมจากไทยจะเพิ่มขึ้นถึงประมาณ 20 %  รวมเป็น 9,291 ล้านบาท การหารือซุปเปอร์มาเก็ตเหอม่า เฟรช - Hema Fresh (หรือ Freshhippo) ในเครือของอาลีบาบา ที่มีระบบบริหารจัดการทั้งหมดเป็นระบบดิจิทัล  โดยทาง Hema ยินดีให้ความร่วมมือผลักดันให้สินค้าไทยเข้าไปวางจำหน่ายในซุปเปอร์ฯ ให้มากขึ้น ดันให้ยอดขายสินค้าไทยใน Hema ในปี 2563  ประมาณ 3,750 ล้านบาท

               

               157373052984

นายจุรินทร์ กล่าวว่า สำหรับผลการเยือนสหรัฐอเมริกา ได้ผลักดันภาพยนตร์และบริการไทยในงาน American Film Market (AFM) 2019 ผ่านกิจกรรมเจรจาธุรกิจในงาน AFM ระหว่าง มีผู้ประกอบการไทย เข้าร่วมจำนวน 8 บริษัท เกิดผลเจรจาธุรกิจ รวม 281 ครั้ง เป็นมูลค่าถึง 2,000 ล้านบาท รวมถึงยังได้ขยายตลาดไปยังแพลตฟอร์มใหม่ๆ มากขึ้น ซึ่งยืนยันได้ว่าภาพยนตร์และบริการไทยได้รับความนิยมสูงทั่วโลก มีโอกาสอีกมาในแพล็ตฟอร์มภาพยนตร์ต่างๆ และยังหารือความร่วมมือในการจัดกิจกรรมเรียนรู้วัฒนธรรมไทยกับ  Nickelodeon Animation Studio และ Walt Disney studio และ Animator คนไทยรุ่นใหม่ 8 ราย เพื่อเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์การ์ตูนที่ผสมผสานวัฒนธรรมเอเชีย และหาแนวทางที่จะพัฒนาส่งเสริมคนไทยที่มีศักยภาพให้ได้มีโอกาสมาพัฒนาฝีมือ และสร้างสรรค์งานร่วมกับบริษัทระดับโลก ทั้งนี้ ในปี 2563 หลังจากนี้จะได้มีการจัดกิจกรรมพบปะผู้ผลิตแอนิเมชั่นระดับโลกเพื่อส่งเสริมเวทีการทำงานของคนไทยมากขึ้น

157373058794 นายจุรินทร์ กล่าวว่า  ยังได้หารือผู้นำเข้าข้าวไทย 13 บริษัท ซึ่งในแต่ละปีนำข้าวหอมมะลิจากไทย 500,000 ล้านบาท  ซึ่งจะต้องเร่งประชาสัมพันธ์ข้าวหอมมะลิให้เป็นเป็นที่รู้จักของผู้บริโภคชาวสหรัฐ เพื่อเพิ่มยอดจำหน่ายข้าวไทย  และการเข้าร่วมงาน Thai Night 2019 (8 พ.ย. 2019) โดยมีทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนฯ เสด็จมาเป็นองค์ประธาน ในพิธี มีผู้เข้าร่วมงาน จำนวนกว่า 550 ราย จากประเทศต่างๆ มากกว่า 16 ประเทศ ซึ่งรวมถึงนักแสดงและผู้สร้างภาพยนตร์ชั้นนำ เพื่อเป็นเวทีที่อุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยได้แสดงความสามารถและศักยภาพ รวมทั้งการใช้โลเคชั่นประเทศไทยในอุตสาหกรรมนี้ รวมผลการเยือนสหรัฐและจีน คาดว่าจะนำรายได้เข้าไทย 16,780 ล้านบาท

นอกจากนั้น ยังจะมีกิจกรรมการผลักดันการส่งออกสินค้าเกษตรที่กระทรวงพาณิชย์จะดำเนินการเร็วๆนี้ จัดกิจกรรมจับคู่ธุรกิจสินค้าเกษตรและเกษตรแปรรูป ยางพารา มันสำปะหลัง ข้าว สินค้านวัตกรรมที่ทำจากผลไม้ และผลิตภัณฑ์พลาสติกชีวภาค  Bio Plastic ในวันพุธที่ 20 พ.ย.นี้ โดยดึงผู้นำเข้า ผู้ซื้อ และตัวแทนจำหน่ายจากภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก กว่า 130 บริษัท อาทิ ตะวันออกกลาง สหภาพยุโรป อเมริกา แอฟริกา และเอเชีย ร่วมกิจกรรมจับคู่ธุรกิจกับผู้ผลิตและผู้ส่งออกไทยกว่า 200 บริษัท พร้อมตั้งเป้าสร้างมูลค่าการเจรจาซื้อขายได้สูงถึง 2,800 ล้านบาท และยังมีพิธีลงนามความตกลงทางการค้า (MOU) กว่า 8 ฉบับ และการนำผู้นำเข้าต่างประเทศเยี่ยมชมสถานประกอบการที่มีศักยภาพ และการจัดนิทรรศการสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์แปรรูป

“วันที่ 15 – 19 พ.ย. 2562 ผมจะนำคณะนักธุรกิจเดินทางเยือนตุรกีและเยอรมัน โดยตั้งเป้าหมายจะไปขายยางพารา ผลิตภัณฑ์อาหาร อื่นๆ จะมีการลงนาม MOU ระหว่างนักธุรกิจไทยและตุรกีในกลุ่มสินค้ายางพาราและผลิตภัณฑ์ข้าว มันสำปะหลัง และซอสปรุงรส และ MOU ระหว่างนักธุรกิจไทยและเยอรมัน และนำผู้ส่งออกไทยที่ผลิตยางที่เกี่ยวข้องกับอุปกรณ์ทางการแพทย์เข้าร่วมแสดงสินค้าในงาน MEDICA 2019 ณ เมืองดึสเซลดอร์ฟ เพื่อผลักดันการส่งออกผลผลิตยางพาราไปยังต่างประเทศอีกด้วย