นายกฯ วอนทุกภาคส่วนร่วมมือดูแลความปลอดภัย จชต. 

นายกฯ วอนทุกภาคส่วนร่วมมือดูแลความปลอดภัย จชต. 

"ประยุทธ์" นำถก "ก.ต.ช." ปมบริหารจัดการภายใน "สตช." ย้ำมาตรการ "รปภ." บูรณาการตลอดปี ชี้กำลังปรับพื้นที่วางกำลังชายแดนใต้ วอนทุกภาคส่วนร่วมมือ เพราะสถานการณ์ไม่เลือกว่าจะเกิดตอนไหน

เมื่อวันที่ 14 พ.ย.62 เวลา 14.00 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) ครั้งที่ 2/2562 โดยภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้มีการประชุม 2 เรื่องด้วยกัน ในส่วนของคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) และก.ต.ช. เป็นเรื่องเกี่ยวกับการบริหารกิจการภายในของสตช. การดูแลเรื่องกฎระเบียบต่างๆให้สอดคล้อง ทันสมัย และบางอย่างต้องพิจารณาต่อในขั้นของวุฒิสภา (ส.ว.) ก็จำเป็นต้องดำเนินการในช่วงนี้ ส่วนรายละเอียดต่างๆมอบหมายให้สตช.เป็นผู้ชี้แจง

นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังได้กล่าวถึงการดูแลความปลอดภัยในช่วงปลายปีว่า เรื่องนี้มีการย้ำอยู่เสมอ คงไม่เฉพาะช่วงปลายปี เราต้องดูแลรักษาความปลอดภัยตลอดทั้งปี วันนี้ได้มีการย้ำเตือนในเรื่องของการปฏิบัติงาน ทั้งในส่วนของสถานการณ์ปกติ ในเขตเมือง ชุมชน ท้องถิ่น ที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลอยู่จะต้องทำงานแบบบูรณาการ รวมถึงการเน้นย้ำการดำเนินการร่วมในการรักษาความมั่นคงภายใน ของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ด้วย รวมถึงการแก้ไขปัญหาภาคใต้ก็ได้มีการเน้นย้ำ ว่าวันนี้อยู่ในขั้นตอนการปรับเปลี่ยนในเรื่องของพื้นที่และการวางกำลัง ซึ่งทางรองเลขาฯกอ.รมน.คือ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) จะลงไปในพื้นที่วันที่ 15 พ.ย.นี้ เพื่อประสานการทำงานร่วมกันระหว่างทหารและตำรวจ รวมทั้งในส่วนของกระทรวงมหาดไทยในการปรับแผนการดำเนินการ ในช่วงต่อจากนี้ เพื่อให้เกิดความสอดคล้อง

นายกฯ กล่าวอีกว่า วันนี้หลายอย่างเพิ่มแรงกดดันมากยิ่งขึ้น ข้อสำคัญถ้าเราไปขยายเรื่องความรุนแรงมากๆ ก็เป็นสิ่งที่ไม่ดี แต่เราไปห้ามกันไม่ได้ เนื่องจากมีการบาดเจ็บและสูญเสีย ก็ต้องแสดงความเสียใจกับผู้สูญเสียและบาดเจ็บ รัฐก็ต้องดูแลเยียวยากันต่อไป ในส่วนของการดำเนินการ ระมัดระวังตัวเอง ก็ได้มีการกำชับให้มีการเข้มงวดมากยิ่งขึ้น เราต้องเตรียมความพร้อมของเรา ในการดูแลประชาชนและการดูแลความปลอดภัยให้กับตัวเอง ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ด้วย บางพื้นที่อาจต้องมีการปรับที่ตั้ง ก็กำลังพูดคุยกันอยู่ วันนี้ตนก็ได้ย้ำไปในทุกเรื่อง เพราะสถานการณ์ไม่เลือกว่าจะเกิดตอนไหน เพียงแต่สถานการณ์ตอนไหนที่มีคนเยอะและเสี่ยงมากๆ เราก็ต้องเข้มงวดมากขึ้น เป็นในส่วนของกติกาที่ทุกคนต้องร่วมกันทำ จึงอยากให้ทุกคนได้ร่วมกันระดมความร่วมมือ จากภาคประชาชนในการมีส่วนร่วมดูแลรักษาความปลอดภัยด้วย เพราะทุกอย่างเกิดขึ้นในพื้นที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็มีอยู่จำนวนจำกัด ดังนั้น ชุมชน ประชาชน และท้องถิ่น ต้องมีส่วนร่วมตรงนี้เราต้องพึ่งพาซึ่งกันและกันทุกคน