'ผู้ตรวจการฯ' รับวินิจฉัยปมอำนาจ 'กมธ.สภาฯ'

'ผู้ตรวจการฯ' รับวินิจฉัยปมอำนาจ 'กมธ.สภาฯ'

"รักษเกชา" นัดถก ปม กมธ.สภาฯ เรียก "นายกฯ" แจงถวายสัตย์ไม่ครบ ขัด รธน.หรือไม่ พรุ่งนี้ - ส่งศาลรธน.วินิจฉัย

เมื่อวันที่ 14 พ.ย. 62 นายรักษเกชา แฉ่ฉาย เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวว่า ที่ประชุมผู้ตรวจการแผ่นดินเมื่อวันที่ 12 พ.ย. มีมติรับคำร้องที่ นายไพบูลย์ นิติตะวัน สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดินพิจารณาและเสนอเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า พ.ร.บ.คำสั่งเรียกของคณะกรรมาธิการสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา พ.ศ. 2554 มาตรา 5 มาตรา 8 และมาตรา 13 ที่ให้อำนาจคณะกรรมาธิการสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภามีอำนาจออกคำสั่งเรียกเอกสารจากบุคคล หรือเรียกบุคคลใดมาชี้แจงข้อเท็จจริงต่อคณะกรรมาธิการ ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 129 ไว้พิจารณาและมีคำสั่งให้ฝ่ายกฎหมายของสำนักงานทำการศึกษาประเด็นข้อกฎหมายต่างๆ โดยเร็ว และให้มีการเสนอเรื่องต่อที่ประชุมผู้ตรวจการแผ่นดินพิจารณาในวันที่ 15 พ.ย. เวลา 13.00 น.

เมื่อถามว่าผู้ตรวจการแผ่นดินรับคำร้องไว้พิจารณาแล้ว คณะกรรมาธิการ ป.ป.ช. ของสภาผู้แทนราษฎร ที่มีมติเรียก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เข้าชี้แจงประเด็นถวายสัตย์ไม่ครบถ้วนในวันที่ 20 พ.ย. ต้องระงับไว้ก่อนหรือไม่ นายรักษเกชา กล่าวว่า มติของผู้ตรวจการแผ่นดินไม่ได้มีผลผูกพันทุกองค์กร ซึ่งองค์กรที่มีหน้าที่จะชี้ว่าพระราชบัญญัติฉบับนี้ขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่คือศาลรัฐธรรมนูญ ดังนั้น จึงเป็นดุลยพินิจของคณะกรรมาธิการฯ ว่าจะเห็นอย่างไร

อย่างไรก็ตาม การที่ผู้ตรวจการแผ่นดินมีมติรับคำร้องดังกล่าวไว้พิจารณาและให้สำนักงานเร่งศึกษาข้อกฎหมายต่างๆ และเสนอต่อที่ประชุมผู้ตรวจการแผ่นดินในวันพรุ่งนี้ ก็เพราะเห็นว่าเรื่องดังกล่าวกำลังเป็นประเด็นที่มีการโต้แย้งกันอยู่ รวมทั้งสังคมให้ความสนใจ ดังนั้น ในการประชุมวันพรุ่งนี้ก็น่าจะทราบว่าผู้ตรวจการแผ่นดินจะมีมติอย่างไร