ปส.จับพ่อค้ายา ซุกไอซ์เครื่องออกกำลังกาย เตรียมส่งญี่ปุ่นเกือบ200โล

ปส.จับพ่อค้ายา ซุกไอซ์เครื่องออกกำลังกาย เตรียมส่งญี่ปุ่นเกือบ200โล

ปส. จับนักค้ายาเสพติดข้ามชาติ หลังพบซุกซ่อนในแท่งเหล็กรวมไปกับกล่องเครื่องออกกำลังกาย เตรียมส่งออกไปยังประเทศญี่ปุ่น เกือบ 200 กิโลกรัม อยู่ระหว่างการขยายผลที่มาของยาเสพติด และปลายทางผู้รับ

เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 14 พ.ย.62 พล.ต.ท.วิสนุ ปราสาททองโอสถ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ได้นำกำลังตำรวจปราบปรามยาเสพติด เข้าตรวจค้นโกดังแห่งหนึ่งในย่านประเวศ ซึ่งเป็นบริษัทจัดเก็บสินค้าเพื่อรอส่งออก หลังจากการขยายผลการจับกุม โดยได้รับรายงานจากกรมศุลกากร และ ปปส. ว่าพบสินค้าเป็นลู่วิ่งเครื่องออกกำลังกาย ซึ่งลักษณะไม่น่าจะต้องส่งออก แต่มีการเตรียมจะส่งออกไปยังประเทศญี่ปุ่น และมีความผิดปกติเพราะมีราคาค่าส่งสูง น้ำหนักผิดปกติ และแพ็กเก็จมีความแข็งแรง ห่ออย่างหนาแน่น ทำให้เจ้าหน้าที่นำกำลังเข้าตรวจค้นและจับกุมจนพบยาไอซ์ได้ เกือบ 200กิโลกรัม

จากการเข้าตรวจสอบโกดังแห่งนี้ พบเครื่องออกกำลังกายจำนวน 10 เครื่องที่แพ็กเก็จไว้รอการส่งออก เจ้าหน้าที่ได้ทำการเปิดลังกล่องขนาดใหญ่ที่บรรจุเครื่องออกกำลังกายตรวจสอบ พบแท่งเหล็กขนาดใหญ่อยู่ภายใต้เครื่องออกกำลังกายต่อ1กล่องจำนวน3แท่ง จากนั้นได้อุปกรณ์ตัดแท่งเหล็ก พบห่อชาเขียวบรรจุยาไอซ์อยู่ภายใน

 

จากการตรวจสอบพบว่า ผู้ดำเนินการจัดส่ง คือนายปิยะนันท์ เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงหมายจับให้รับทราบก่อนเชิญตัวไปสอบปากคำ เบื้องต้น นายปิยะนันท์ ให้การปฎิเสธว่า ไม่ใช่เจ้าของยาเสพติด และไม่ทราบว่ามียาเสพติดอยู่ภายในแท่งเหล็กได้อย่างไร

โดย พล.ต.ท.วิสนุ กล่าวว่า โดยลักษณะของการซุกซ่อนยาเสพติด ในการจะส่งออกไปยังต่างประเทศครั้งนี้ มาในรูปแบบของเครื่องออกกำลังกาย ด้านบนแพ็กเก็จจะเป็นเครื่องออกกำลังกาย และด้านล่างสินค้าจะมีท่อเหล็กจำนวน3ท่อ ซึ่งไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเครื่องออกกำลังกายดังกล่าว และเมื่อผ่าท่อออก พบบรรจุภัณฑ์สีเขียวซุกซ่อนอยู่ ตรวจสอบเป็นยาไอซ์ จากนั้นได้ขยายผลมายังโกดังแห่งนี้ ตรวจค้นพบเครื่องออกกำลังกายอีก 10 เครื่อง รวมกับที่ตรวจพบก่อนหน้านี้เป็น 12 เครื่อง ยาไอซ์รวมเกือบ 200 กิโลกรัม

หลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะขยายผลไปยังต้นทางว่า ยาเสพติดมาได้อย่างไร และขยายผลไปยังการยึดทรัพย์ และการฟอกเงินด้วย

 

ขณะที่ ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด กล่าวด้วยว่า จากการสอบสวนพบว่า ไม่ได้ทำเป็นครั้งแรก และผู้ต้องหารายนี้ เป็นเครือข่ายของการส่งออก อยู่ระหว่างการขยายผลเพิ่มเติม รวมถึงการขยายผลไปยังปลายทางที่รับสินค้าด้วย เบื้องต้นพบว่าผู้รับสินค้าคือชาวต่างชาติ และหลังจากนี้ จะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึง บริษัทขนส่งเอกชน ให้เพิ่มมาตราการในตรวจสอบสินค้าซึ่งหากพบความผิดปกติ ทั้ง นำ้หนัก ไม่ระบุปลายทางสินค้า ให้แจ้งมาที่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทันที

สำหรับนายปิยะนันท์ ผู้ต้องหา เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ ได้แจ้งข้อหาพยายามส่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) ออกนอกราชอาณาจักร เพื่อจำหน่วยโดยไม่ได้รับอนุญาต และ มีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต