วิเคราะห์สถานการณ์"ราคาน้ำมัน" (14 พ.ย.62)
ราคาน้ำมันดิบปรับขึ้น หลังสหรัฐฯ คาดเศรษฐกิจยังแข็งแกร่ง
+ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนท์ปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางของสหรัฐฯ (FED) ได้ให้ความเห็นว่า เศรษฐกิจของสหรัฐฯ ยังคงแข็งแรงดีและจะไม่มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มในปีนี้ เนื่องจากตลาดแรงงานสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่งและอัตราเงินเฟ้อที่มีเสถียรภาพ
+ นายโมฮัมเหม็ด บาร์กินโด เลขาธิการกลุ่มโอเปค กล่าวว่าเศรษฐกิจโลกยังคงแข็งแกร่งในด้านปัจจัยพื้นฐานและคาดว่าปริมาณการผลิตน้ำมันชั้นหินดินดาน (Shale oil) ของสหรัฐฯ ในปี 2563 จะปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้
+ สถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานสหรัฐฯ (API) เผยว่า ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 8 พ.ย. 62 ปรับตัวลดลง 541,000 บาร์เรล สู่ระดับ 440 ล้านบาร์เรล ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
- สถาบันสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ (EIA) เผยการคาดการณ์อุปทานน้ำมันของสหรัฐฯ แตะระดับ 13 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนนี้ และจะปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดไว้ในปี 2563
ราคาน้ำมันเบนซิน
ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปทานจากภูมิภาคเอเชียปรับตัวสูงขึ้น ประกอบน้ำมันเบนซินคงคลังสหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น
ราคาน้ำมันดีเซล
ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ จากอุปสงค์ในภูมิภาคเอเชียที่ยังคงอ่อนตัว และปริมาณการส่งออกปรับเพิ่มขึ้นจากจีนและอินเดีย
อ่านข่าว-โอเปกมั่นใจศก.โลกยังแกร่งหนุนราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้น