'สนธิรัตน์' จ่อชง 'กพช.' ธ.ค.นี้ ดันไทยฮับแอลเอ็นจี

'สนธิรัตน์' จ่อชง 'กพช.' ธ.ค.นี้ ดันไทยฮับแอลเอ็นจี

"สนธิรัตน์" จ่อชง "กพช." กลางเดือนธ.ค.นี้ ไฟเขียวแผนงานเร่งด่วนดันไทยเป็นศูนย์กลางซื้อขายแอลเอ็นจีระดับภูมิภาค เคาะโมเดลโรงไฟฟ้าชุมชน ก่อนประกาศโครงการต้นปีหน้า เล็งคลอดมาตรการแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุม Policy Quick Start : แผนขับเคลื่อนนโยบายเร่งด่วนว่า ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งจัดทำรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับการผลักดันนโยบายเร่งด่วนที่จะต้องดำเนินการในช่วง 3 เดือน ทั้งเรื่องของโรงไฟฟ้าชุมชน การผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการซื้อขายก๊าซธรรมชาติเหลว หรือ ฮับแอลเอ็นจี ในระดับภูมิภาค และมาตรการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน(PM 2.5) เพื่อนำเสนอขอการอนุมัติจากที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.) ในช่วงกลางเดือน ธ.ค.นี้


โดยขณะนี้พบว่า แผนงานในเรื่องเร่งด่วนนั้นมีความคืบหน้าไปมากแล้ว โดยเฉพาะเรื่องของโครงการโรงไฟฟ้าชุมชน ซึ่งได้สั่งการให้กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) ไปจัดทำรายละเอียดรูปแบบโครงการที่ชัดเจน เพื่อนำเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน(กบง.)ในวันที่ 4 ธ.ค.นี้ ก่อนนำเข้าสู่ กพช. ช่วงกลางเดือนธ.ค.นี้ต่อไป หลังจากนั้นคาดว่าจะเริ่มประกาศโครงการและเปิดการรับซื้อไฟฟ้าได้ในต้นปีหน้า


ส่วนเรื่องของการเป็นฮับแอลเอ็นจี ในระดับภูมิภาค ได้มอบหมายในคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ.) ได้ดูรายละเอียดเรื่องของข้อกฎหมายที่เป็นอุปสรรค เพื่อปลอดล็อคระเบียบและข้อกฎหมายต่างๆ ให้ไทยสามารถซื้อขายแอลเอ็นจีในระดับภูมิภาคได้ ซึ่งเบื้องต้นนั้น จะให้บริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน) ที่เป็นผู้เล่นรายแรกในธุรกิจแอลเอ็นจีของไทย ดำเนินการซื้อขาย หรือ เทรดดิ้งแอลเอ็นจี ในระดับภูมิภาคก่อน ตามแผนงานของ ปตท. ที่ได้ยื่นเรื่องต่อ กกพ. ภายใต้“โครงการทดสอบนวัตกรรมที่นำเทคโนโลยีมาสนับสนุนการให้บริการด้านพลังงาน (Energy Regulatory Commission Sandbox :ERC Sandbox)


นอกจากนี้ ในเรื่องของการแก้ไขปัญหา PM 2.5 นับเป็นที่จะต้องเรื่องเร่งดำเนินการ เพราะในช่วงปลายปีในเขตกรุงเทพฯ และเชียงใหม่ จะได้รับผลกระทบอย่างมาก ซึ่งกระทรวงพลังงานเตรียมจะประกาศมาตรการในเร็วๆนี้ และส่วนหนึ่งของมาตราการนี้ จะร่วมถึงการเร่งรัดผลักดันกาใช้น้ำมันดีเซล บี10 ให้ได้ตามแผนงานที่ว่างไว้