'กลุ่มสามารถ' แจงไตรมาส 3 โตตามคาด ทั้งรายได้และกำไร

'กลุ่มสามารถ' แจงไตรมาส 3 โตตามคาด ทั้งรายได้และกำไร

"กลุ่มสามารถ" เผยไตรมาส 3 ปี 62 รายได้รวม 3,290 ล้านบาท กำไรสุทธิ 124 ล้านบาท โตกว่าช่วงเดียวกันของปี 61 โดยธุรกิจเอสทีซีรายได้รวม 1,950 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนถึงร้อยละ 30

เมื่อวันที่ 14 พ.ย. 62 นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของกลุ่มสามารถในไตรมาส 3 ปี 2562 มีรายได้รวมทั้งสิ้น 3,290 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 3 เปอร์เซนต์ กำไรสุทธิ 124 ล้านบาท เติบโตกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน รวม 9 เดือน มีรายได้ทั้งสิ้น 11,070 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 29 เปอร์เซนต์ เป็นกำไรสุทธิ 381 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนเช่นกัน

ทั้งนี้ เป็นผลมาจากการดำเนินธุรกิจและการบริหารงานในยุคดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพ โดยสายธุรกิจที่สร้างรายได้หลักให้กับกลุ่มสามารถ ได้แก่ สายธุรกิจ ICT Solution & Service ซึ่งบริหารงานโดยกลุ่มบริษัท SAMART TELCOMS “STC” มีรายได้ในไตรมาส 3 ทั้งสิ้น 1,950 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 80 ล้านบาท โดยในไตรมาส 3 มีการเซ็นสัญญาโครงการใหม่ มูลค่ารวม 1,734 ล้านบาท อาทิ โครงการพัฒนาระบบโทรคมนาคมทหารของกองบัญชาการกองทัพไทย, โครงการต่อสัญญาจ้างให้บริการและบำรุงรักษาระบบตรวจบัตรโดยสารขึ้นเครื่อง หรือ CUTE ของ บมจ.ท่าอากาศยานไทย, โครงการติดตั้งกล้องวงจรปิดพื้นที่สวนสาธารณะในกรุงเทพฯ และโครงการติดตั้งระบบไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในพื้นที่จังหวัดจันทบุรีและพังงา ส่งผลให้ผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัท SAMART TELCOMS “STC” ตลอด 9 เดือน มีรายได้และกำไรสูงขึ้น เฉลี่ยกว่า 30 เปอร์เซนต์ โดยมีรายได้รวม 7,221 ล้านบาท และกำไร 310 ล้านบาท รวมแล้วมีโครงการในมือ มูลค่าทั้งสิ้นกว่า 9,000 ล้านบาท ที่สำคัญในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ยังมีงานที่รอการประมูลอีกกว่า 30 โครงการ มูลค่าไม่ต่ำกว่า 6,000 ล้านบาท อาทิ โครงการของธนาคารออมสิน และบมจ.กสท โทรคมนาคม เป็นต้น

)

157370514737 กลุ่ม SAMART Digital (SDC) มีผลประกอบการที่เริ่มขยับไปในทิศทางบวก โดยในไตรมาส 3 ปี 62 มีรายได้รวมทั้งสิ้น 280 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 40 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยมีปัจจัยหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากธุรกิจ Digital Network และธุรกิจ Digital Content ที่ล่าสุดบริษัท isport ได้รับการแต่งตั้งจากสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในการให้บริการอุปกรณ์ VAR (Video Assistant Referee) เป็นเวลา 3 ปี (2020-2022) โดยในปี 2019 เป็นการเตรียมความพร้อมของอุปกรณ์และการฝึกสอนผู้ตัดสินและทีมงาน เพื่อการใช้งานจริงในปี 2020 โดยมีมูลค่าสัญญา 46 ล้านบาท รวมถึงอีกหนึ่งธุรกิจใหม่ โดยการจับมือกับบริษัทแคทบัซซ์ ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนของบริษัท กสท.หรือ CAT ในการติดตั้งอุปกรณ์ไวไฟทั่วประเทศ หรือ Premium free WIFI โดย SDC จะมีรายได้จากการเข้าไปหาพื้นที่และติดตั้งอุปกรณ์ไวไฟ พร้อมดูแลรักษาตลอด 5 ปี (นับจากติดตั้ง) โดยตั้งเป้าติดตั้งจำนวน 10,000 จุด ภายในปี 2020 และ 30,000 จุด ภายใน 3 ปี ล่าสุดได้บรรลุข้อตกลงกับกรมอาชีวะ ในการติดตั้งอุปกรณ์ไวไฟในสถาบันอาชีวะกว่า 400 แห่ง

กลุ่ม SAMART U-Trans หรือ “SUT” นำโดย บริษัท แคมโบเดีย แอร์ ทราฟฟิค เซอร์วิสเซส จำกัด ที่สร้างรายได้ประจำให้กับกลุ่มสามารถอย่างต่อเนื่อง มีรายได้ในไตรมาส 3 กว่า 500 ล้านบาท รวม 9 เดือน มีรายได้แล้วกว่า 1,500 ล้านบาท ทั้งนี้ กลุ่ม SAMART U-Trans ยังอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการขยายธุรกิจการควบคุมจราจรทางอากาศในหลายๆ ประเทศ รวมถึงโรงไฟฟ้าทั้งในประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้าน ถือเป็นสายธุรกิจที่เป็นอีกหนึ่งกำลังสำคัญในการสร้างรายได้ประจำให้แก่กลุ่มสามารถอย่างต่อเนื่อง

สุดท้าย สายธุรกิจเทคโนโลยีอื่นๆ โดย บมจ.วันทูวัน คอนแทคส์ มีรายได้เฉพาะไตรมาส 3 จำนวนทั้งสิ้น 188 ล้านบาท คิดเป็นกำไรถึง 26 ล้านบาท เติบโตขึ้นถึงกว่า 500 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ซึ่งรวมถึงรายได้อื่นๆซึ่งเป็นการชำระหนี้ของลูกค้าจำนวน 25.6 ล้านบาทด้วย และมีการเซ็นต์สัญญาโครงการเฉพาะในไตรมาส 3 ไปแล้วมูลค่า 254 ล้านบาท ส่งผลให้เมื่อสิ้นไตรมาส 3 OTO มีงานคงค้างในมือแล้วทั้งสิ้น 839 ล้านบาท และคาดว่าในไตรมาสสุดท้ายจะยังมีโอกาสเข้าร่วมประมูลอีก 19 โครงการ รวมมูลค่าประมาณ 110 ล้านบาท ด้านบจก.วิชั่นแอนด์ซิเคียวริตี้ คาดว่าเมื่อสิ้นปี 2562 จะเติบโตทั้งรายได้และกำไรเฉลี่ย 20 เปอร์เซนต์ โดยมีโอกาสจากโครงการติดตั้งกล้องวงจรปิดในกทม. และภาคใต้ ที่ยังมีความต้องการเพิ่มขึ้น

“กลุ่มบริษัทสามารถ” มุ่งมั่นนำเสนอผลิตภัณฑ์ และบริการด้านเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าอย่างครบวงจรภายใต้บริษัทในเครือกว่า 20 บริษัท และมี 4 บริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ประกอบด้วย บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัท สามารถเทลคอม จำกัด (มหาชน) บริษัท สามารถดิจิตอล จำกัด (มหาชน) และ บริษัท วันทูวัน คอนแทคส์ จำกัด (มหาชน