บอร์ด'โอสถสภา'ไฟเขียวลงทุนโรงงานขวดแก้วเมียนมาร์-ไตรมาส3กำไรโต8.5%
'โอสถสภา'ไตรมาส3/62 กำไรสุทธิ 837.59 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.5 %จากช่วงเดียวกันปีก่อนกำไรสุทธิ 771.92 ล้านบาท เหตุรายได้เพิ่มขึ้น รวมถึงโครงการเพิ่มประสิทธิภาพ -ลดต้นทุนดำเนินงาน ขณะงวด9 เดือน2562 มีกำไรสุทธิ 2,436.25 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.9% ด้านบอ
บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) หรือ OSP แจ้งผลการดำเนินงานไตรมาส3/2562ว่า มีกำไรสุทธิ 837.59 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.5 %จากช่วงเดียวกันปีก่อนกำไรสุทธิ 771.92 ล้านบาท เนื่องจากรายได้จากการขายเพิ่มขึ้น7.2% อยู่ที่ 6,328 ล้านบาท โดยโตทั้งกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มและผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคล ขณะที่กำไรขั้นต้นปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 34.6% หรือ เพิ่มขึ้น 2.8% จากช่วงเดียวกันปีก่อน จากโครงการจัดทำเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนโดยรวมของบริษัท ขณะงวด9 เดือน 2562 มีกำไรสุทธิ 2,436.25 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.9% จากช่วงเดียวกัน ปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 2,216.31 ล้านบาท
นอกจากนี้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ อนุมัติลงทุนในบริษัท เมียนมาร์ โกลเด้น อีเกิ้ล จำกัด (MGE) และบริษัท เมียนมาร์ โกลเด้น กลาส จำกัด (MGG) ในประเทศเมียนมาร์ ในวงเงินไม่เกิน 8 ล้านดอลลาร์ หรือ 242.71 ล้านบาท โดย MGE ประกอบธุรกิจโรงงานผลิตขวดแก้ว และ MGG ประกอบธุรกิจจำหน่ายขวดแก้วในประเทศเมียนมาร์ โดยการลงทุนครั้งนี้เพื่อขยายธุรกิจต่างประเทศของบริษัท ซึ่งแหล่งเงินทุนมาจากกระแสเงินสดของบริษัท
ทั้งนี้บริษัทแจ้งเพิ่มเติมว่า มูลค่าการลงทุนโครงการนี้ จะมีมูลค่า 40 ล้านดอลลาร์ หรือ ประมาณ 1,213.60 ล้านบาท แบ่งเป็น การจัดหาเงินทุนโดยออกหุ้น ((Equity Financing)จำนวน 14.2 ดอลลาร์ หรือ 430.82 ล้านบาท การจัดหาเงินทุนโดยการกู้ยืมจากสถาบันการเงิน 25.8 ล้านดอลลาร์ หรือ 782.77 ล้านบาท
