'กมธ.ปราบโกง' ออกเสียง 6:3 เชิญ 'ประยุทธ์-ประวิตร' แจงกมธ.สัปดาห์หน้า

'กมธ.ปราบโกง' ออกเสียง 6:3 เชิญ 'ประยุทธ์-ประวิตร' แจงกมธ.สัปดาห์หน้า

“กมธ.ปราบโกง” ออกเสียง 6:3 เชิญ “ประยุทธ์-ประวิตร” แจงกมธ.สัปดาห์หน้า ยันกมธ.มีอำนาจ-แย้งคำวินิจฉัยศาลรธน. ปมถวายสัตย์ แค่ความเห็นของตุลาการ ไม่มีผลห้ามให้ตรวจสอบรายละเอียด “เสรีพิศุทธ์” ตำหนิ “ปารีณา​“ ไม่ตั้งใจทำงาน

เมื่อวันที่ 13 พ.ย.62 พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย ฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร แถลงผลการประชุมว่า ที่ประชุมได้ออกเสียงด้วยการยกมือเพื่อพิจารณาว่าในการประชุมกมธ.​นัดหน้ายังจะเชิญ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ชี้แจงต่อกมธ. ประเด็นการเสนอร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2562 โดยมิชอบเพราะถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนปฏิบัติหน้าที่ไม่ครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญ ในวันที่ 20 พฤศจิกายน ซึ่งผลการลงมติจากกมธ. เสียงข้างมาก 6 เสียงเห็นด้วยให้เชิญ และอีก 3 เสียงไม่เห็นด้วย ทั้งนี้ตนฐานะประธานกมธ.ฯ ไม่ได้ออกเสียงในมติดังกล่าว

ทั้งนี้ ในประเด็นตรวจสอบดังกล่าวจำเป็นให้พล.อ.ประยุทธ์ และพล.อ.ประวิตรเป็นผู้ชี้แจงด้วยตนเอง เพราะเป็นผู้นำรัฐบาลและมีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรง และไม่สามารถให้บุคคลอื่นมาชี้แจงแทนได้ ส่วนที่ต้องลงมติ เพราะกมธ.​ได้เชิญจำนวน 3 ครั้งแต่ไม่ได้มาด้วยตนเอง อย่างไรก็ตามหากครั้งหน้า พล.อ.ประยุทธ์ และพล.อ.ประวิตร ยังไม่มาชี้แจงด้วยตนเอง กมธ.​จะพิจารณาร่วมกันอีกครั้งว่าจะดำเนินการอย่างไร หรือจะใช้อำนาจตามกฎหมายเรียกหรือไม่

“กมธ.ยืนยันว่ามีอำนาจตามข้อบังคับที่จะตรวจสอบเรื่องนี้ แม้ พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และนายประสาน หวังรัตนปราณี คณะทำงานของพล.อ.ประวิตรจะแสดงความเห็นว่ากมธ. ไม่มีอำนาจ ซึ่งขอให้สื่อมวลชนทำความเข้าใจเรื่องดังกล่าวก่อนจะนำมาถามผม ส่วนที่มองว่าเรื่องถวายสัตย์ปฏิญาณตนของนายกฯ กมธ.ฯ ไม่มีอำนาจตรวจสอบได้ ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญระบุ แต่ในเนื้อหาไม่ใช่คำวินิจฉัยเพราะเป็นเพียงความเห็นของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ กมธ.ฯ จึงไม่เชื่อ และยืนยันว่ามีอำนาจที่จะตรวจสอบเรื่องนี้ให้กระจ่าง และยังมีอำนาจ เพราะรัฐธรรมนูญกำหนดให้คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญมีผลผูกพันต่อทุกองค์กร แต่สิ่งที่ศาลรัฐธรรมนูญออกมาในเรื่องถวายสัตย์ไม่ใช่คำวินิจฉัย เป็นเพียงความเห็นเท่านั้น” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ แถลง

 

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ยังกล่าวตำหนิการทำหน้าที่ของน.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ฐานะกมธ.ฯ​ที่เข้าทำงานครั้งแรก ว่า ไม่เหมาะสมต่อการทำหน้าที่เพราะไม่อยู่ปฏิบัติหน้าที่ในห้องประชุม และได้ออกจากห้องประชุมก่อนการประชุมแล้วเสร็จ เพราะอ้างว่ามีธุระ อีกทั้งตนได้มอบหมายให้ทำงานในด้านการตรวจสอบอื่นๆ แต่ได้รับการปฏิเสธ อีกทั้งระหว่างการประชุมยังนำโทรศัพท์บันทึกภาพในห้องประชุมซึ่งถือว่าขัดต่อข้อบังคับอีกด้วย

ทั้งนี้ ตนมองว่าการกลับก่อนแบบนี้เป็นการทำงานที่ไม่ตั้งใจ อย่างไรก็ตามจากกรณีที่มีข่าวปรากฎผ่านสื่อมวลชนเรื่องการถือครองที่ดิน จำนวน 1,700 ไร่ ตามสิทธิภบท. 5 นั้น กมธ.ตั้งเรื่องตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อตรวจสอบ และต้องการสร้างความเป็นธรรมให้กับ น.ส.ปารีณา หากตรวจสอบพบแล้วไม่ผิด สื่อมวลชนต้องยุติการนำเสนอข่าวดังกล่าว ทั้งนี้ไม่ใช่การกลั่นแกล้งหรือเอาคืนทางการเมือง

รายงานข่าวจากที่ประชุมกมธ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ ต่อกรณีความขัดแย้งระหว่าง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กับ น.ส.ปารีณา นั้น เกิดขึ้นซ้ำอีก ช่วงพิจารณาปัญหาการใช้งบประมาณของสำนักพระพุทธศาสนาไม่ถูกต้อง ซึ่งระหว่างนั้น น.ส.ปารีณาได้ลุกเดินออกจากห้องประชุม ทำให้พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ถามว่า “คุณปารีณาจะรีบไปไหน เห็นบอกว่า จะมาตรวจสอบโครงการจัดซื้อจักรยานยนต์ไทเกอร์ ไม่ใช่หรือ” ซึ่งน.ส.ปารีณาตอบกลับว่า “ติดภารกิจต้องไปก่อน ส่วนเรื่องจักรยานยนต์ไทเกอร์ เดี๋ยวสัปดาห์หน้าจะขอตรวจสอบ” จากนั้นน.ส.ปารีณาได้เดินออกจากห้องประชุมไปด้วยความไม่สบอารมณ์