ศธ.จัดทำงบ64 เน้นวางแผนพัฒนาตรงเป้าหมาย

ศธ.จัดทำงบ64 เน้นวางแผนพัฒนาตรงเป้าหมาย

รมว.ศธ.ย้ำจัดทำงบปี2564 เน้นการวางแผนสนับสนุนเรื่องต่างๆ ที่เข้มข้น ตรงตามเป้าหมายที่ ศธ. วางไว้ ป้องกันความซ้ำซ้อนของการใช้งบประมาณ คาดงบประมาณปี 2564 ต้องเพิ่มขึ้นจากเดิม

วันนี้ ( 13 พ.ย.) นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ได้ประชุมหารือเรื่องการจัดเตรียมงบประมาณปี 2564 ของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ร่วมกับฝ่ายจัดทำงบประมาณขององค์หลัก ศธ. เพื่อสร้างความเข้าใจที่ตรงกันในการจัดเตรียมงบประมาณให้สอดรับกับนโยบายรัฐบาล

นโยบายของ ศธ. ที่สำคัญเป็นการป้องกันปัญหาเรื่องความซ้ำซ้อนของการใช้งบประมาณ เพราะมองว่าในบางเรื่องอาจจะสามารถบริหารจัดการงบประมาณร่วมกันระหว่างหน่วยงานได้ เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ทั้งนี้ จะไม่ทำงบประมาณเหมือนกับที่ผ่านมา คือ เมื่อก่อนการให้หน่วยงานในพื้นที่เป็นผู้เสนอความต้องการเข้ามาและส่วนกลางจะสนับสนุนลงไปให้ แต่การจัดทำงบประมาณ ปี 2564 นั้น จะต้องมีการวางแผนในการสนับสนุนเรื่องต่างๆ ที่เข้มข้น

ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาครูและบุคลากร ที่จะต้องทำให้ตรงตามเป้าหมายที่ ศธ. วางไว้ เช่น เรื่องภาษาอังกฤษ ทักษะความเข้าใจและใช้เทคโนโลยีดิจิทัล (Digital literacy) เป็นต้น

"ผมคงไม่สามารถบอกได้ในขณะนี้ว่างบประมาณในปี 2564 จะมีตัวเลขเพิ่มขึ้นหรือลดลง เพราะผมต้องเห็นภาพรวมทั้งหมดก่อน ทุกอย่างต้องมีความเหมาะสม ซึ่งผมต้องการให้ทุกๆ เรื่องที่แต่ละองค์กรหลักของ ศธ.จะขับเคลื่อน มีความชัดเจนก่อน"รมว.ศธ.กล่าว

ทั้งเรื่องของเวลาในการดำเนินงาน อุปกรณ์ที่จะใช้ในการขับเคลื่อน รวมไปถึงจำนวนเงินที่จะใช้เพื่อที่จะอธิบาย และสร้างความสบายใจให้กับสำนักงบประมาณในการสนับสนุนภารกิจงานตรงนี้ แต่ส่วนตัวคิดว่างบประมาณปี 2564 คงต้องเพิ่มขึ้นจากเดิม

นอกจากนี้ ยังได้มอบหมายให้นายอนุชา บูรพชัยศรี เลขานุการ รมว.ศธ.เป็นที่ปรึกษาในการขับเคลื่อนการจัดทำงบประมาณปี 2564 ซึ่งคาดว่าจะมีการติดตามการจัดทำงบประมาณในทุกสัปดาห์ เพื่อรับทราบความคืบหน้า รวมถึงปัญหา อุปสรรคต่างๆ ในการทำงบประมาณรูปแบบใหม่นี้ด้วย

นายณัฏฐพล กล่าวต่อว่า สำหรับเรื่องงบประมาณที่จะใช้ในเรื่องการอบรมพัฒนาครู มองว่าเมื่อ ศธ. สามารถนำระบบอินเตอร์เน็ตให้ครอบคลุมทุกโรงเรียนได้แล้ว การอบรมครูจะเปลี่ยนจากการที่อบรมในโรงแรมมาดำเนินการที่โรงเรียนที่มีศักยภาพแทน ซึ่งจะทำให้ครูไม่จำเป็นต้องเดินทางและจะไม่เสียเวลา และสามารถอบรมในช่วงนอกเวลาราชการได้ คิดว่าน่าจะได้ประโยชน์กับครูมากยิ่งขึ้น

มั่นใจว่าการอบรมครูในอนาคตจะมีความเข้มข้นมากขึ้นใช้เวลาน้อยลง ครูสะดวกและได้รับความรู้ตรงกับแนวทางของศตวรรษที่ 21 สำหรับเรื่องโครงการพัฒนาครูรูปแบบครบวงจร หรือ คูปองครู ก็ยังคงมีอยู่ในสัดส่วนที่มีความจำเป็น โดยเรื่องนี้จะถูกกำหนดให้เกี่ยวโยงกับการเลื่อนวิทยฐานะของครูด้วย ซึ่งรูปแบบในการดำเนินการเรื่องนี้จะทำให้ครูมีความคล่องตัวและมีความสะดวกในการเลื่อนวิทยฐานะมากยิ่งขึ้น