ไทยจัดประชุม 6 ชาติอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง แก้ปัญหายาเสพติดทะลักจากแหล่งผลิต เลขาฯ ป.ป.ส. เผย มีขบวนการลักลอบนำสารตั้งต้น-เคมีภัณฑ์เข้าไทย ชนกลุ่มน้อยตั้งโต๊ะเก็บค่าผ่านทาง
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานเปิดการประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสภายใต้กรอบบันทึกความเข้าใจ 7 ฝ่าย ว่าด้วยการควบคุมยาเสพติดในอนุภูมิภาค (Mekong MOU) ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง 6 ประเทศสมาชิก ประกอบด้วย กัมพูชา จีน เมียนมา เวียดนาม สปป.ลาว ไทย และสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC)
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า การประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสครั้งนี้จะเน้นกลไกสำคัญในการแลกเปลี่ยนดำเนินงานเพื่อป้องกันการลักลอบผลิต การค้า และการใช้ยาเสพติดในทางที่ผิดในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง โดยเฉพาะพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำที่มีการผลิตและลักลอบลำเลียงยาเสพติดเป็นจำนวนมาก รวมทั้งการจัดทำแผนปฏิบัติการในอนุภูมิภาคเพื่อการควบคุมยาเสพติด ฉบับที่ 11 ซึ่งแสดงออกถึงความร่วมมือจากทุกประเทศที่มีความตั้งใจแก้ไขปัญหายาเสพติดในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง และร่วมกันรับผิดชอบการดำเนินงาน โดยสนับสนุนทรัพยากรต่างๆ เพื่อการควบคุมยาเสพติด และการรับรองปฏิญญากรุงเทพ เพื่อความต่อเนื่องในการร่วมมือกันแก้ไขปัญหายาเสพติด ซึ่งถือเป็นหนึ่งเรื่องเร่งด่วนที่จะต้องเร่งแก้ไขปัญหาตามนโยบายรัฐบาล อย่างไรก็ตาม มาตรการคู่ขนานที่รัฐบาลดำเนินการคือ การลดความต้องการยาเสพติดในประเทศ ซึ่งมีความสำคัญเพราะแม้ว่าจะสามารถทำลายแหล่งผลิตได้มากเท่าใด หากความต้องการยังคงมีอยู่แหล่งผลิตก็จะเกิดขึ้นใหม่ ดังนั้น ขอให้ประชาชนทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยช่วยกันดูแลลูกหลาน ครอบครัว ชุมชน และสังคม
ด้านนายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) เปิดเผยว่า ปีนี้ไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสและระดับรัฐมนตรี ภายใต้กรอบบันทึกความเข้า 7 ฝ่าย ว่าด้วยการควบคุมยาเสพติดในอนุภูมิภาค หรือความร่วมมือ Mekong MOU เพื่อรับมือกับสถานการณ์ปัญหายาเสพติดแถบลุ่มน้ำโขงที่พบว่ามีการลักลอบลำเลียงสารตั้งต้นและเคมีพันธุ์เข้ามาเป็นจำนวนมาก และมีการกำหนดเป้าหมายเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนในปี 2573 โดยเน้น 4 แผนงานสำคัญ คือ ปัญหายาเสพติดและสุขภาพ ความร่วมมือด้านการปราบปราม ความร่วมมือด้านกฎหมายและอาญา และการพัฒนาอย่างยั่งยืน เพื่อเป็นการยกระดับการแก้ไขปัญหายาเสพติดในภูมิภาคลุ่มน้ำโขง
นายนิยม กล่าวอีกว่า ในช่วงปี 2562 ที่ผ่านมา พบว่ามีขบวนการค้ายาเสพติดลักลอบนำเข้าเคมีพันธุ์และสารตั้งต้นเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยสารดังกล่าวมาจากประเทศจีนและอินเดีย หรือกลุ่มประเทศที่มีอุตสาหกรรมเครื่องหนัง หรือยาฆ่าแมลง แม้ที่ผ่านมาจีนจะมีการสกัดกั้น แต่ยังพบมีการลักลอบนำเข้าประเภทหัวเชื้อและเคมีภัณฑ์บางชนิด โดยพบว่าบางครั้งจะลักลอบนำเข้าผ่านประเทศไทย เนื่องจากสารที่ใช้ในเชิงอุตสาหกรรมบางชนิดไม่ผิดกฎหมาย แต่สารบางตัวสามารถนำไปสกัดและผลิตเป็นยาเสพติดบางชนิดได้ ทำให้การควบคุมเป็นไปได้ยาก นอกจากนี้ ยังพบว่ากองกำลังชนกลุ่มน้อยที่ยังมีอิทธิพลอยู่ตามแนวชายแดนไทยและประเทศเพื่อนบ้าน มีการผลิตยาเสพติดเพื่อส่งเข้ามาขายในประเทศไทย ขณะที่บางกลุ่มไม่ได้ผลิตแต่มีการเรียกเก็บค่าผ่านทางก่อนส่งเข้ามาตามแนวชายแดน ทำให้ยาเสพติดทะลักเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยจะเห็นว่าสถิติตัวเลขการจับกุมสูงขึ้น และปริมาณของกลางมากขึ้นอย่างผิดปกติ ทั้งนี้ ไม่ได้หมายความว่าเราปล่อยให้ยาเสพติดเข้ามา แต่ยาเสพติดมีจำนวนมากจนถูกดันทะลักเข้ามา