แนวโน้มไม่เปลี่ยน ให้มองที่ภาพรวม อย่ามองเพียงข่าวเจรจารายวัน

แนวโน้มไม่เปลี่ยน ให้มองที่ภาพรวม อย่ามองเพียงข่าวเจรจารายวัน

คงมุมมองเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวในช่วง 3-6 เดือนข้างหน้า

จากผลของการกลับมาสั่งสินค้า (re-stocking) หลังทุกคนระมัดระวังอย่างมากต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยของสหรัฐฯ ซึ่งมีสัญญาณความเสี่ยงที่ลดลง ขณะที่ความเชื่อมั่นธุรกิจขนาดย่อมสหรัฐฯ ปรับขึ้น และตัวเลขภาคการผลิตของ จีน, ไต้หวัน และเกาหลีใต้ ผ่านจุดต่ำสุดในเดือนมิ.ย.และปรับตัวขึ้นในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา เป็นปัจจัยสำคัญที่นักลงทุนควรให้ความสนใจ มากกว่าข่าวการเจรจาการค้ารายวัน

คงมุมมองบวกต่อบรรยากาศเก็งกำไร แม้ตลาดอาจแกว่ง หลังประธานาธิปดีทรัมป์ กล่าวสุนทรพจน์ที่ Economic Club of New York ยังมองการเจรจาการค้าใกล้บรรลุ แต่ก็ขู่ว่าจะกลับมาขึ้นภาษีจีนเพิ่มเติม หากไม่สามารถบรรลุการเจรจา ซึ่งเราเชื่อว่าอาจสร้างความสับสนและผันผวนระยะสั้นให้ตลาด อย่างไรก็ตามคงมุมมองการเจรจาการค้าไม่แย่ไปกว่าที่เป็นอยู่ และเศรษฐกิจโลกโดยรวมยังได้ประโยชน์จาก Global re-stocking ที่กำลังเกิดขึ้น

กลุ่มประกันได้ประโยชน์จากผลตอบแทนพันธบัตรที่ฟื้นตัว ประกันเป็นธุรกิจที่นำเงินเบี้ยประกันที่ได้รับจากลูกค้าไปลงทุนหาผลตอบแทน และเผชิญแรงกดดันของผลตอบแทนที่ลดลง ตามอัตราผลตอบแทนพันธบัตร ส่งผลให้หุ้นเป็นขาลงในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งเมื่อผลตอบแทนพันธบัตรฟื้นตัวแรงกดดันย่อมลดลง และเป็นจิตวิทยาบวกต่อการเก็งกำไร ทั้งนี้เรามองหุ้นประกันภัยน่าสนใจกว่าประกันชีวิต เพราะความเสี่ยงจากการตั้งสำรองและการหาผลตอบแทนจากการลงทุนต่ำกว่า จากเบี้ยที่คิดแบบปีต่อปี ทำให้เราชอบ THRE, TIP มากกว่า BLA และ THREL โดย THRE เป็นหุ้นแนะนำเก็งกำไรถึง 9 ครั้ง ในช่วง 12 วันทำการที่ผ่านมา

เราเน้น selective buy ในหุ้นที่โมเมนตัมกำไรช่วงครึ่งปีหลังเป็นบวก พื้นฐานแกร่ง ราคาไม่แพง เพื่อให้สอดคล้องกับมุมมองของเราที่คาดตลาดเป็นบวกในช่วงไตรมาส 4/62 เราเน้น selective buy 1) สาธารณูปโภคที่ยังไม่แพง WHAUP, SSP, NNCL 2) กลุ่มได้ประโยชน์จากน้ำมันทรงตัว อาทิ EPG, BJC, BGC, DCC โรงกลั่น SPRC, TOP, BCP, ESSO 3) กลุ่มโรงแรม AOT, MINT, ERW จากตัวเลขนักท่องเที่ยวที่คาดฟื้นตัว // รวมถึงหุ้นที่น่าสนใจอื่นๆ อาทิ ADVANC, INTUCH, VRANDA*, TEAMG, MTC, SAWAD, VNT*, CPN // กลุ่มการแพทย์ ร.พ.ขนาดเล็กเด่น RPH*, RJH*, CHG

ภาพรวมกลยุทธ์ หากไม่หลุดแนวรับ 1615-1620 จุด ยังคงภาพบวกของการเก็งกำไรรายตัว เราคงมุมมองการลงทุนโดยรวมเป็นบวกในช่วง 3-6 เดือน ข้างหน้า// หุ้นแนะนำวันนี้ MINT, WHAUP* /เก็งกำไร  TIP* (เป้า 25, ตัดขาดทุน 23), EASTW* (เป้า 13.00, ตัดขาดทุน 11.80)

แนวรับ 1615-1620 จุด / แนวต้าน : 1633 สัดส่วน : เงินสด 50% : พอร์ตหุ้น 50%

ประเด็นการลงทุน

ทรัมป์ให้มุมมองเชิงบวกต่อดีลการค้า ทรัมป์เปิดเผย จีน-สหรัฐฯ ใกล้บรรลุข้อตกลงการค้าเฟสแรก ระบุ จีนต้องการทำข้อตกลงเป็นอย่างมาก ขณะที่ทรัมป์กล่าว จะยอมรับขอตกลงที่ดีสำหรับสหรัฐฯ และแรงงานของสหรัฐฯ เท่านั้น

ทรัมป์เรียกร้องเฟดใช้นโยบายดอกเบี้ยติดลบ ทรัมป์กล่าวโจมตีประธานเฟดกรณีลดดอกเบี้ยล่าช้าส่งผลเสียต่อตลาดและเศรษฐกิจ เรียกร้องให้ใช้นโยบายดอกเบี้ยติดลบ

ไฟเขียว ชิม-ช้อป-ใช้เฟส 3 – ครม.มีมติอนุมัติมาตรการ “ชิม-ช้อป-ใช้ เฟส 3 เปิดให้ประชาชนลงทะเบียนรับสิทธิ์เพิ่มอีก 2 ล้านคน เริ่ม 14 พ.ย.นี้ แต่ไม่มีแจกเงิน 1000 บาท เหมือน 2 เฟสแรก

กสทช.เผยกรอบประมูล 5G – กสทช.เห็นชอบหลักเกณฑ์ประมูลคลื่น 5G เปิดรับฟังความคิดเห็น 13 พ.ย.-12 ธ.ค.62 โดยให้ปรับราคาตั้งต้นย่าน 26GHz จาก 300 ล้านบาท เป็น 423 ล้านบาท เปิดเอกชนยื่น ม.ค. ชิงคลื่น 16 ก.พ.62

ค่าระวางเรือ ดัชนี BDI ปิดที่ 1354.00 จุด เพิ่มขึ้น 9 จุด, +0.67%

ประเด็นติดตาม: 13 พ.ย.สุนทรพจน์ประธานเฟด / ตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ, 14 พ.ย. – EU GDP 3Q, 18 พ.ย.สภาพัฒน์รายงาน GDP ไตรมาส 3/62

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)