‘แอสเสท เวิรด์’ ไร้กรีนชู หุ้นรูดต่ำจอง โบรกแนะเลี่ยงลงทุน เหตุราคาสูง

‘แอสเสท เวิรด์’ ไร้กรีนชู หุ้นรูดต่ำจอง โบรกแนะเลี่ยงลงทุน เหตุราคาสูง

“แอสเสท เวิรด์” ร่วงหนักกว่า 10% ฉุดราคาหุ้นรูดต่ำจองแตะระดับ 5.40 บาท “นักวิเคราะห์” แนะเลี่ยงลงทุน ชี้ผลจากหมด “กรีนชู” ทั้งยังตั้งไอพีโอแพง ระบุเป็นการซื้ออนาคต 2-3 ปีข้างหน้า

ความเคลื่อนไหวราคาหุ้น บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC วานนี้(12พ.ย.) ปรับตัวลดลงแรงในช่วงบ่าย โดยปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 5.25 บาท ลดลง 13.25 %  ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงต่ำกว่าราคาไอพีโอ เป็นวันแรก หลังจากที่หมดระยะเวลาการใช้ กรีนชู เมื่อวันที่ 8 พ.ย. ที่ผ่านมา ขณะที่ช่วงท้ายตลาดราคาหุ้นเริ่มรีบาวด์กลับขึ้นมาเล็กน้อย โดยมาปิดตลาดที่ระดับ 5.40 บาท ลดลง 0.65 บาท หรือ 10.74 % มูลค่าการซื้อขาย 3,131.74 ล้านบาท

 นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ (บล.)ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน)หรือ FSS เปิดเผยว่า ราคาหุ้น AWC ปรับตัวลดลงแรงวานนี้ มาจาก 2 ปัจจัยหลัก คือ หมดระยะเวลาการใช้ กรีนชู ในการดูแลเสถียรภาพราคาหุ้น เมื่อวันที่ 8 พ.ย. ที่ผ่านมา และหากพิจารณาในด้านของมูลค่าหุ้น (แวลูเอชั่น) ซึ่งราคาหุ้น ที่ ราคาไอพีโอ ที่ 6 บาท นั้น ถือว่าเป็นราคาที่สูง มีค่า P/E ในปีนี้ 100- 200 เท่า และ ขณะที่ปีหน้า P/E จะอยู่ที่ 60-70 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มโรงแรม และท่องเที่ยวที่ซื้อขายที่ P/E เฉลี่ย ที่ 20-30 เท่า จึงทำให้นักลงทุนขายออกมา

ทั้งนี้ทางบริษัทมองว่า ราคาหุ้นของ AWC ค่อนข้างสูง จึงมองว่ายังมีหุ้นตัวอื่นที่มีราคาถูกว่าน่าลงทุน ในกลุ่มท่องเที่ยวและ โรงแรม เพราะ หากซื้อ AWC นั้น เป็นการซื้อ อนาคตค่อนข้างใกล้ 2-3 ปี ข้างหน้า จากที่หวังว่าผลการดำเนินงานจะโตไปตามที่นักวิเคราะห์คาด ที่จะทำให้ P/E กลับลงมาในระดับดับ 30 เท่า

นายสมบัติ เอกวรรณพัฒนา ผู้อำนวยการอาวุโส บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) กล่าวว่า จากที่ราคาหุ้นของ ของ AWC ปรับตัวลดลงแรง นั้น เพราะ หมดระยะเวลาการใช้กรีนชู ในการดูแลหุ้น และ จาก คอนเซนซัส นั้น ราคาหุ้น ที่ 6 บาทนั้น เป็นราคาค่อนข้างแพง จึงมีแรงเทขายหุ้นออกมา และก่อนหน้า นักลงทุนมีการเก็งกว่า AWC จะถูกเข้าคำนวณ FTSE และ MSCI พอไม่ได้เข้าก็อาจเป็นอีกปัจจัยทำให้ราคาหุ้นปรับตัวลดลงมา

นักวิเคราะห์ ด้านเทคนิค บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า จากที่ราคาหุ้น AWC ปรับตัวลดลงแรง และวอลุ่มการซื้อขายหนาแน่น ซึ่งมองว่า มีโอกาสที่ราคาหุ้นของ AWC แกว่งหาฐานใหม่ ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์ จึงไม่แนะนำให้นักลงทุนเข้าไปลงทุนในช่วงนี้ ควรรอให้หุ้นมีการหาฐานใหม่ก่อน ให้แนวรับที่ระดับ 5.10 บาท แนวต้านที่ระดับ 5.90 บาท

ด้านแหล่งข่าวจากนักวิเคราะห์ กล่าวว่า ที่เห็นแรงขาย AWC ออกมานั้น นอกจากเรื่องราคาหุ้นที่แพง และหมดระยะเวลาการใช้กรีนชูประคองหุ้นนั้น อาจจะมีนักลงทุนบางส่วนที่ได้หุุ้นไอพีโอ มองว่าราคาหุ้นคงจะไม่ปรับตัวขึ้นมาก จึงมีการชอร์ต หุ้นออกมาที่ราคา 6 บาทก่อน แล้วค่อยกลับเข้ามารับใหม่ในราคาต่ำกว่า เพื่อให้มีผลตอบแทน

นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า  ทิศทางตลาดหุ้นไทยจากนี้ถึงสิ้นปีนี้ ยังมีปัจจัยบวกเข้ามาสนับสนุน คือ เม็ดเงินกองทุนรวมหุ้นระยะยาว ( LTF) และ กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ ( RMF) เข้ามาซื้อ ซึ่งคาดว่าจะมีเม็ดเงินเข้ามางทุนอีกประมาณ 3 หมื่นล้านบาท และ จากที่ MSCI เพิ่มหุ้นไทย เข้าไปคำนวณในดัชนี และตัวเลขเศรษฐกิจที่ดีขึ้น จากเป็นช่วงไฮซีซัน ของธุรกิจ ท่องเที่ยว และ ส่งออก ส่วนประเด็นที่จะต้องติดตามเรื่องการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน ที่ยังไม่มีความชัดเจน