“โกลบอลทิกซ์” รุกโซลูชั่นจองตั๋วเที่ยว

“โกลบอลทิกซ์” รุกโซลูชั่นจองตั๋วเที่ยว

“โกลบอลทิกซ์” สตาร์ทอัพสัญชาติสิงคโปร์ เพิ่มดีกรีรุกตลาดลูกค้าธุรกิจ เอเย่นต์ทัวร์ แหล่งท่องเที่ยวทุกไซส์ โดยเฉพาะเล็ก-กลางในไทย ชูจุดขายราคาค่าสมาชิก เชื่อมพันธมิตรเอเย่นต์และแพลตฟอร์มจองสินค้าท่องเที่ยวออนไลน์กว่า 2,000 รายทั่วโลก

นายชาน ชี คอง ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายปฏิบัติการ โกลบอลทิกซ์ (GlobalTix)ผู้ให้บริการโซลูชั่นด้านเทคโนโลยีสำหรับธุรกิจท่องเที่ยว กล่าวว่า หลังจากเปิดตัวธุรกิจเมื่อปี2557และได้พัฒนาระบบให้เป็นศูนย์กลางการจำหน่ายตั๋วด้านการท่องเที่ยวครบวงจร ครอบคลุมการจอง ณ จุดขาย การจองออนไลน์ และการจองผ่านเครือข่ายพันธมิตรตัวแทนการท่องเที่ยว ทั้งเอเย่นต์ทัวร์และแพลตฟอร์มจองสินค้าท่องเที่ยวออนไลน์กว่า2,000รายทั่วโลก ส่งผลให้นักท่องเที่ยวเข้าถึงสินค้าท่องเที่ยวกว่า 80,000 รายการ จาก120เมือง

หลังได้วางรากฐานธุรกิจในสิงคโปร์บ้านเกิดเมื่อ5ปีก่อน และเข้ามาทำตลาดในไทยแล้ว2ปี รวมถึงประเทศอื่นๆ ในอาเซียน ได้แก่ มาเลเซีย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ รวมปัจจุบันมี5สำนักงานใน5ประเทศ โกลบอลทิกซ์ตั้งเป้ารุกดึงลูกค้าธุรกิจท่องเที่ยวในไทยมากขึ้น ทั้งเอเย่นต์ทัวร์และแหล่งท่องเที่ยวทุกขนาด โดยเฉพาะขนาดเล็กและกลาง ชูจุดขายเรื่องค่าธรรมเนียมการเป็นสมาชิก เริ่มต้น39ดอลลาร์ต่อเดือน และยังช่วยให้ลูกค้ากำหนดราคาเฉพาะสำหรับแต่ละตัวแทนท่องเที่ยวแตกต่างกันไปเพื่อสร้างรายได้สูงสุด

โดยเห็นปัญหาของลูกค้าธุรกิจเอเย่นต์ทัวร์และแหล่งท่องเที่ยว โดยปัจจุบันกว่า 80% ของทัวร์และกิจกรรมทั่วโลกยังคงจองแบบออฟไลน์ และกว่า90%ยังคงดำเนินการให้จองและออกตั๋วแบบดั้งเดิม สร้างความยุ่งยากในการจัดการ ทั้งที่สถิตินักท่องเที่ยวยุคใหม่กว่า40%นิยมใช้สมาร์ทโฟนเพื่อจองกิจกรรมท่องเที่ยวในวันหยุดแบบกระชั้นชิด เช่น ทำการจองในวันนั้นหรือ2วันล่วงหน้าบนแอพพลิเคชั่น

โซลูชั่นของโกลบอลทิกซ์จะช่วยลดความยุ่งยาก ทั้งยังรวบรวมยอดขายจากหลายช่องทางการขายทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อให้ลูกค้าธุรกิจสามารถมองเห็นยอดขายได้ทั้งหมดและตรวจสอบได้แบบเรียลไทม์ นอกจากนี้ยังให้ข้อมูลเชิงลึกทางการตลาดให้ลูกค้าได้นำไปปรับแผนส่งเสริมการตลาด สำหรับตัวอย่างลูกค้าธุรกิจในไทยมี คิดซาเนียร์ ไทยแลนด์, ซี ไลฟ์ แบงค็อก โอเชี่ยน เวิลด์, ไอยรา ทรานสปอร์ต และสแปลช จังเกิล

ขณะที่มูลค่าตลาดการจองทัวร์และกิจกรรมท่องเที่ยวแบบออนไลน์มีแนวโน้มเติบโตดี โดยมีคาดการณ์ว่าจะพุ่งเป็น2.7หมื่นล้านดอลลาร์ในปี2563เพิ่มจาก1.2หมื่นล้านดอลลาร์ของปี2558