วิเคราะห์สถานการณ์"ราคาน้ำมัน" (11 พ.ย.62)
ราคาน้ำมันดิบผันผวนต่อเนื่อง จากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่ยังไร้ข้อสรุป
+ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนท์ปิดตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย หลังปรับตัวลดลงอย่างมากกว่า 1% จากความกังวลว่าสหรัฐฯ และจีนจะไม่สามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้าในระยะที่ 1 ในเร็วนี้ หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ไม่เห็นด้วยกับแนวคิดที่จะยกเลิกการจัดเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีน สวนทางกับแหล่งข่าวในวันก่อนหน้าที่จีนเปิดเผยว่าการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ ดำเนินไปด้วยดีและทั้งสองประเทศตกลงที่จะทยอยยกเลิกกำแพงภาษีนำเข้าที่ถูกตั้งขึ้นจากสงครามการค้า
+ ปริมาณการการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในอัตราที่ชะลอตัวลง ภายหลังจาก Baker Hughes รายงานปริมาณแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบของสหรัฐฯ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 8 พ.ย. ปรับตัวลดลง 7 แท่นมาอยู่ที่ 684 แท่น ซึ่งนับเป็นการปรับลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน
-/+ ตลาดจับตาการประชุมของกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันดิบทั้งในและนอกโอเปค ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 5-6 ธ.ค. 62 ว่ากลุ่มผู้ผลิตจะการปรับลดกำลังการผลิตเพิ่มเติมจากเดิมหรือไม่ หลังในปีหน้าตลาดน้ำมันดิบมีแนวโน้มล้นตลาดอย่างต่อเนื่อง จากอุปทานที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐฯ
ราคาน้ำมันเบนซิน
ปรับตัวเพิ่มขึ้นสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ในภูมิภาคเอเชียที่ยังคงอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง โดยเฉพาะจากอินเดียและอินโดนีเซีย อย่างไรก็ตาม ราคาคาดจะได้รับแรงกดดันจากจีนที่คาดจะส่งออกเพิ่มมากขึ้น
ราคาน้ำมันดีเซล
ปรับลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงกดดันจากอุปทานในภูมิภาคที่อยู่ในระดับสูง ขณะที่อุปสงค์เริ่มชะลอตัวลง อย่างไรก็ตาม ราคายังได้รับแรงหนุนจากแรงซื้อจากออสเตรเลียที่อยู่ในระดับสูง