‘อาเซียน’สวรรค์แห่งกองถ่ายฮอลลีวู้ด

‘อาเซียน’สวรรค์แห่งกองถ่ายฮอลลีวู้ด

การเปิดให้กองถ่ายภาพยนตร์ต่างชาติโดยภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดยกกองมาถ่ายทำในประเทศ ถือเป็นช่องทางประชาสัมพันธ์ประเทศให้นานาชาติได้รู้จัก ล่าสุด รัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจอินโดนีเซียเกิดไอเดียเด็ดเกี่ยวกับเรื่องนี้

เว็บไซต์จาการ์ตาโพสต์ รายงานว่า วิษณุทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ต้องการผ่อนคลายกฎระเบียบ ให้ต่างชาติเข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์ในอินโดนีเซียง่ายขึ้น เนื่องจากภาพยนตร์เป็นช่องทางเผยแพร่ความงามของประเทศให้ผู้ชมทั่วโลกได้รู้จัก และวันหนึ่งพวกเขาจะเดินทางมาท่องเที่ยวอินโดนีเซีย

“กระบวนการขออนุญาตควรง่ายขึ้น เนื่องจากการถ่ายทำภาพยนตร์เป็นการลงทุนในอินโดนีเซียประเภหนึ่ง การขออนุญาตจำต้องสะดวก ซึ่งเราจะลดขั้นตอนให้ง่ายขึ้น”

รัฐมนตรีการท่องเที่ยวกล่าวพร้อมเสริมว่า ที่ยกประเด็นนี้มาพูดเพราะหลายคนโอดครวญมา ครั้งหนึ่งเขาเคยช่วยผู้สร้างภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดรายหนึ่งขออนุญาตถ่ายทำในอินโดนีเซีย ซึ่งพบว่ายากมาก

อย่างไรก็ตาม การลดขั้นตอนการขออนุญาตถ่ายทำภาพยนตร์มีกระทรวงอื่นๆ เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งวิษณุทมะจะศึกษาวิการลดขั้นตอนการขอใบอนุญาตต่อไป

ก่อนหน้านี้แองเจลา เฮอลิอานี ตาโนโซดิบโจ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ภาพยนตร์เปิดโอกาสประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวอินโดนีเซียด้วยวิธีการที่สร้างสรรค์กว่าเดิม เช่น ภาพยนตร์ฮอลลีวู้ด เมื่อปี 2553 เรื่องEat, Pray, Love ถ่ายที่บาหลี

“วิธีการสร้างสรรค์เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวมีมากมาย การถ่ายหนังก็เป็นหนึ่งในนั้น”

ด้านจันท์ ปาร์เวซ ผู้อำนวยการสำนักงานภาพยนตร์อินโดนีเซียเผยว่า บ่อยครั้งที่การขออนุญาตถ่ายทำภาพยนตร์ในต่างประเทศของ่ายกว่าอินโดนีเซีย ตัวอย่างเช่น ที่นิวยอร์กซิตี้สะดวกมากสำหรับผู้สร้าง ค่าธรรมเนียมในการถ่ายตามสถานที่ต่างๆ อยู่ในระดับที่รับได้

การส่งเสริมให้ต่างชาติเข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์ เป็นนโยบายที่หลายประเทศส่งเสริม เมื่อช่วงต้นปีรัฐซาราวักของมาเลเซียก็ประกาศเรื่องนี้ไว้ชัดเจน รัฐบาลท้องถิ่นรัฐซาราวักเผยกับเว็บไซต์ดายักเดลีว่า กำลังเตรียมตัวให้แรงจูงใจผู้สร้างภาพยนตร์เข้ามาพัฒนา ผลิต และถ่ายทำภาพยนตร์และสารคดีในซาราวัก

“สำหรับคนที่สนใจถ่ายหนังในซาราวัก เราขอให้คุณมาคุยกับรัฐบาลท้องถิ่น เราพร้อมแล้วที่จะพิจารณาให้ความช่วยเหลือคุณ” อับดุล การิม ราห์มัน ฮัมซาห์ รัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยว ศิลปวัฒนธรรม เยาวชน และกีฬารัฐซาราวักกล่าวพร้อมย้ำว่า การเปิดให้ผู้สร้างภาพยนตร์และสารคดีเข้ามาถ่ายทำผลงานในซาราวัก จะช่วยส่งเสริมวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ ความงดงาม อุตสาหกรรมท่องเที่ยว และกิจกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจ สิ่งเหล่านี้ถ้าได้รับการนำเสนออย่างเหมาะสมจะดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากทีเดียว

รัฐมนตรียกตัวอย่างบ้านฮอบบิตของนิวซีแลนด์ ที่มีนักท่องเที่ยวไปเยือนถึงวันละ 4,000 คน

"ด้วยเหตุนี้ภาพยนตร์จึงมีส่วนสำคัญในการส่งเสริมการท่องเที่ยว เรายินดีปรึกษากับเหล่าผู้สร้างและภาคส่วนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ ดูว่าเราให้อะไรได้บ้าง เช่น ช่วยเรื่องโลจิสติกส์และที่พัก และเราไม่สามารถทำงานโดยลำพังได้ เราเป็นแค่ส่วนหนึี่งของภูมิภาคอาเซียน" รัฐมนตรีกล่าว

ไม่กี่เดือนหลังจากนั้น สตีเวน ซีกัล บิ๊กเนมจากฮอลลีวู้ด ได้มาเยือนย่านเมืองเก่าซีนิยวัน รัฐซาราวักที่มีตลาดกลางคืนอันโด่งดัง เยี่ยมวัดและหมู่บ้านชาวพุทธ เพื่อหาทำเลถ่ายทำภาพยนตร์