'มท.1' ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ความรุนแรงชายแดนใต้

'มท.1' ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ความรุนแรงชายแดนใต้

"มท.1" ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ความรุนแรง เน้นย้ำฝ่ายปกครองชายแดนใต้อย่าสร้างเงื่อนไข

เมื่อวันที่ 9 พ.ย.62 ที่กองพลทหารราบที่15 อ.หนองจิก จ.ปัตตานี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย พร้อมด้วยข้าราชการระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย และกรมการปกครอง เดินทางมาตรวจเยี่ยมข้าราชการในสังกัด หลังเกิดเหตุความไม่สงบในพื้นที่ โดยเฉพาะเหตุคนร้ายลอบยิงป้อมชุดคุ้มครองตำบล เป็นเหตุให้มี ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านและประชาชนเสียชีวิต จำนวน 15 ราย พร้อมกันนี้ยังได้ร่วมเปิดเวทีสภาขับเคลื่อนสันติสุขตำบล ซึ่ง กอ.รมน.ภาค4 ส่วนหน้าจัดขึ้นเพื่อเสริมสร้างศักยภาพของผู้นำท้องที่และผู้นำท้องถิ่น ทั้ง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และพลังมวลชน กว่า 500 คนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาชายแดนภาคใต้ โดยการเดินทางมาครั้งนี้ พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่4 ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ ตำรวจ ทหาร ทั้ง จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้การต้อนรับ

พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า การทำงานในพื้นที่ มีหลายหน่วยงานหลายองค์กรหลายกฎหมาย แต่การทำงานในจังหวัดชายแดนภาคใต้ต้องทำงานร่วมกันและมีประสิทธิภาพ สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ 1.การสร้างความเข้าใจ 2.ความมั่นคง และ3.การพัฒนา ซึ่งปัญหาภาคใต้มีมาตั้งแต่ก่อนปี 2547 เช่น เรื่องการสร้างความเข้าใจกับพี่น้องประชาชน ที่ยกปัญหาเรื่องศาสนา และเชื้อชาติ ตนขอบอกว่าประเทศไหน ๆ ก็อยู่กันหลายเชื้อชาติ ทุกประเทศต้องสร้างความเข้าใจ อยู่ด้วยกันสันติ เคารพเชื้อชาติศาสนาซึ่งกันและกัน เพลงชาติบ่งบอกแล้วว่า ทุกเชื้อชาติต้องอยู่ด้วยกัน แล้วจะมาก่อความไม่สงบเพื่ออะไร การพัฒนาประเทศชาติ สิ่งหนึ่งคือ ได้รับความเป็นธรรมหรือไม่ อย่างทำตัวเป็นเงื่อนไขกับประชาชน อย่าดูถูกเหยียบหยาบ ซึ่งถ้าทำเช่นนั้น จะไปแก้ตัวอะไรไม่ได้

ส่วนด้านความมั่นคง เราคือ จนท.ของรัฐ ต้องดูแลทั้งตัวเราและประชาชน ปัญหาชายแดนภาคใต้มีอยู่กลุ่ม คือ 1.กลุ่มก่อความรุนแรง และ2.ประชาชนจะประสบความสำเร็จเมื่อเหตุการณ์สงบ คนจะมีงานทำ มีชีวิตที่ดี ใครจะอยู่ที่ไหนก็ได้ มีสิทธิทุกอย่าง ถ้าจะชนะต้องเอาประชาชนส่วนใหญ่อยู่กับเรา และใช้มาตราการทางกฏหมาย และทางทหาร เพื่อกดดันกลุ่มพวกนี้ให้ได้ หรือเอาจิตใจคนกลุ่มนี้ออกมาอยู่กับเราให้ได้

รมว.มหาดไทย กล่าวอีกว่า ขอฝากฝ่ายปกครอง มีกำลัง อส.ต้องประเมินสถานการณ์ตลอดเวลา ต้องรู้ที่มาที่ไป ว่าคนกลุ่มนี้มาอย่างไร เมื่อรู้ก็ต้องปิดช่องว ไม่ให้กลุ่มพวกนี้ออกมาก่อเหตุ และเราต้องประเมินตัวเองด้วยว่าจะดูแลพื้นที่ความปลอดภัยอย่างไร ถ้าเราพร้อม ถามว่ากลุ่มพวกนี้จะกล้าเข้ามาก่อเหตุหรือไม่ เพราะไมว่าใครจะกล้ามาก กล้าน้อย ชีวิตถ้าอยู่ได้ ก็ไม่อาจจะกลัว เราต้องเข้มแข็ง ต้องประเมินสถานการณ์ให้ดีให้รอบคอบ ให้อยู่ในสายเลือด อย่าหละหลวม เพราะเหตุเมื่อเกิดก็จะมีการสูญเสียแต่เราต้องปกป้องไม่ให้มันเกิด จากนั้นก็ให้เกิดการพัฒนา เราต้องทำให้เค้าอยู่กับเราให้ได้ เพราะเค้าก็คือคนไทย สร้างให้ทุกคนมีชีวิตที่ดีขึ้น ขอเน้นว่า มาวันนี้เพื่อสะท้านให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรอบคอบ ปฏิบัติตามกฎหมาย ตนเชื่อมั่นในตัวแม่ทัพภาคที่4 รัฐบาลให้เอกภาพในการทำงาน เช่นเดียวกับ ศอ.บต จึงขอให้นายอำเภอทุกคนให้ทำงานตามนโยบายแม่ทัพ ทำงานให้เต็มที่และเป็นหนึ่งเดียว ทำงานบูรณาการร่วมกันทั้งตำรวจ และทหารด้วย