วิเคราะห์สถานการณ์"ราคาน้ำมัน" (8 พ.ย.62)
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนท์ปรับเพิ่ม จากความคืบหน้าของการเจรจาการค้าสหรัฐฯ-จีน
+ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนท์ปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังจีนส่งสัญญาณว่าการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ ยังคงดำเนินไปด้วยดี ซึ่งจะส่งผลดีต่อการเติบโตของเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมันโลก โดยทั้งสองประเทศตกลงที่จะทยอยยกเลิกกำแพงภาษีนำเข้าที่ถูกตั้งขึ้นจากสงครามการค้า ก่อนที่จะทำการลงนามในสัญญาขั้นที่ 1 อย่างไรก็ตามยังไม่มีกำหนดการยกเลิกภาษีที่แน่นอนออกมา
+/- กลุ่มโอเปคมองสภาพตลาดน้ำมันดิบในปี 2563 ว่ายังอยู่ในระดับดี จากความคืบหน้าของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ทำให้กลุ่มโอเปคอาจไม่จำเป็นต้องลดกำลังการผลิตในปีหน้าลงมากกว่าข้อตกลงเดิม ซึ่งอยู่ที่ระดับ 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยกลุ่มโอเปคและประเทศพันธมิตรจะทำการหารือถึงปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของปี 2563 ในการประชุมครั้งถัดไป ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 5-6 ธ.ค. 62 ณ กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย
- สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์ สิ้นสุด ณ วันที่ 1 พ.ย. 62 ปรับเพิ่มราว 7.9 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 446.8 ล้านบาร์เรล
ราคาน้ำมันเบนซิน
ปรับตัวเพิ่มขึ้นสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสหรัฐฯ ปรับตัวลดลง 28.3 ล้านบาร์เรล จากสัปดาห์ก่อนหน้า แตะระดับต่ำสุดในรอบ 23 เดือน ที่ 217.2 ล้านบาร์เรล
ราคาน้ำมันดีเซล
ปรับลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ จากอุปทานที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังโรงกลั่นกลับมาดำเนินการจากช่วงปิดซ่อมบำรุงประจำปี ประกอบกับจีนเพิ่มปริมาณการส่งออกน้ำมันดีเซล