ยังคงมุมมองเชิงบวกในช่วง 3-6 เดือนข้างหน้า ระวังแรงทำกำไรกลุ่มปลอดภัยที่แพง

ยังคงมุมมองเชิงบวกในช่วง 3-6 เดือนข้างหน้า ระวังแรงทำกำไรกลุ่มปลอดภัยที่แพง

ตลาดยังได้รับอานิสงค์จากข่าวสารเชิงบวกจากการเจรจาการค้า

โดยเฉพาะประเด็นความเป็นไปได้ที่สหรัฐฯและจีน มีโอกาสที่จะยกเลิกการจัดเก็บภาษีสินค้านำเข้าของแต่ละฝ่ายที่เกิดขึ้นในช่วงก่อนหน้า รวมทั้งประเด็นที่จีนจะยกเลิกข้อจำกัดการนำเข้าสัตว์ปีกจากสหรัฐฯ เรายังคงมุมมองเชิงบวกต่อภาพรวมการเจรจา แต่ประเมินการยกเลิกภาษีที่จัดเก็บไปแล้วเกิดขึ้นได้ยาก และอาจไม่เกิดขึ้นในข้อตกลงเฟสแรกนี้ เราคงมุมมองการลงทุนโดยรวม ในช่วง 3-6 เดือนข้างหน้า เป็นบวกจากการฟื้นตัวของภาคการผลิตและเศรษฐกิจโลก และยังคงมอง upside 100-150 จุด จากจุดต่ำสุดที่ 1579 จุด ตามที่ได้สื่อสารใน UTRAE Morning Call ตลอดช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ปรับขึ้นจะทำให้เกิดการปรับพอร์ต ลดการถือสินทรัพย์ปลอดภัยลง และกระจายการลงทุนไปยังสินทรัพย์ที่ยังคงมีการถือครองต่ำ (underowned) โดยเฉพาะกลุ่มหุ้นที่ปรับลดลงมามาก อย่างไรก็ตามการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของผลตอบแทนพันธบัตรอาจส่งผลต่อความผันผวนของตลาดจากแรงขายทำกำไรหุ้นกลุ่มปลอดภัยที่ valuation แพง โดยเฉพาะกลุ่มโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ ซึ่งผลประกอบการเข้าสู่ช่วง low season ครึ่งปีหลัง

MSCI เพิ่มหุ้นไทยในการคำนวณ แต่อาจผันผวนจากการเพิ่มน้ำหนักตลาดหุ้นจีน MSCI ประกาศทบทวน (review) หุ้นที่เข้าคำนวณในดัชนี มีผลสิ้นวันทำการ 26 พ.ย. โดยดัชนี Global Standard / หุ้นเข้า: BGRIM, GPSC, OSP, SAWAD / หุ้นออก: ไม่มี // ดัชนี MSCI Global Small Cap หุ้นเข้า: CENTEL, DOHOME, JMT, SPRC, STPI, TPIPP, TQM / หุ้นออก: CBG, SAWAD, TISCO อย่างไรก็ตามตลาดเอเชียและเกิดใหม่โดยรวมอาจผันผวนจากแรงปรับพอร์ตเนื่องจากการปรับเพิ่มน้ำหนักหุ้นจีนขึ้นราว 4 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งจะมีผลให้น้ำหนักของตลาดอื่นปรับลดลงโดยสัมพัทธ์

เราเน้น selective buy ในหุ้นที่โมเมนตัมกำไรช่วงครึ่งปีหลังเป็นบวก พื้นฐานแกร่ง ราคาไม่แพง เพื่อให้สอดคล้องกับมุมมองของเราที่คาดตลาดเป็นบวกในช่วงไตรมาส 4/62 เราเน้น selective buy 1) สาธารณูปโภคที่ยังไม่แพง WHAUP, SSP, NNCL 2) กลุ่มได้ประโยชน์จากน้ำมันทรงตัว อาทิ EPG, BJC, BGC, DCC โรงกลั่น SPRC, TOP, BCP, ESSO 3) กลุ่มโรงแรม AOT, MINT, ERW จากตัวเลขนักท่องเที่ยวที่คาดฟื้นตัว // รวมถึงหุ้นที่น่าสนใจอื่นๆ อาทิ ADVANC, INTUCH, VRANDA*, TEAMG, MTC, SAWAD, VNT*, CPN // กลุ่มการแพทย์ ร.พ.ขนาดเล็กเด่น RPH*, RJH*, CHG

ภาพรวมกลยุทธ์ การผ่าน 1625 จุด ทำให้กรอบการลงทุนยกสู่ 1625-1655 จุด ยังคงมุมมองการลงทุนโดยรวมเป็นบวกในช่วง 3-6 เดือน ข้างหน้า// หุ้นแนะนำวันนี้ VNT, EPG* /เก็งกำไร  THRE* (เป้า 0.75, ตัดขาดทุน 0.54), TEAMG* (เป้า 3.00, ตัดขาดทุน 2.22)

แนวรับ 1630 จุด / แนวต้าน : 1647 สัดส่วน : เงินสด 50% : พอร์ตหุ้น 50%

ประเด็นการลงทุน

แบงก์ชาติอังกฤษเสียงแตกคงดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.75% – ธนาคารอังกฤษ (BOE) มีมติ 7-2 เสียง คงอัตราดอกเบี้นนโยบายที่ระดับ 0.75% ตามที่ตลาดคาด ก่อนการเลือกตั้งทั่วไปที่จะมีขึ้นในวันที่ 12 ธ.ค. นี้

จีนเตรียมยกเลิกคำสั่งแบนนำเข้าสัตว์ปีกจากสหรัฐฯ สื่อระบุ จีนเตรียมพิจารณายกเลิกข้อจำกัดต่อการนำเขาสัตว์ปีกจากสหรัฐฯ โดยรางานดังกล่าวมีขึ้นหลังจกที่ สหรัฐฯ-จีน บรรลุข้อตกลงที่จะยกเลิกการจัดเก็บภาษินค้าระหว่างกัน

ความเชื่อมั่นผู้บริโภคต่ำสุดในรอบ 65 เดือน ม.หอการค้าฯ รายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค เดือน ต.ค. ที่ 70.7 ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 8 และทำจุดต่ำสุดในรอบ 65 เดือน ผลจากความเป็นห่วงสถานการณ์เศรษฐกิจ-การเมืองภายในประเทศ

ค่าระวางเรือดัชนี BDI ปิดที่ 1,428.00 จุด ลดลง 105.00 จุด, -6.85%

ประเด็นติดตาม: 13 พ.ย.สุนทรพจน์ประธานเฟด, 14 พ.ย. – EU GDP 3Q, 18 พ.ย.สภาพัฒน์รายงาน GDP ไตรมาส 3/62

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)