‘เพซ’ โล่งอก! เจ้าหนี้หุ้นกู้ไฟเขียวยืดเวลาชำระหนี้อีก3ปี

‘เพซ’ โล่งอก! เจ้าหนี้หุ้นกู้ไฟเขียวยืดเวลาชำระหนี้อีก3ปี

เพซ แจงเจ้าหนี้หุ้นกู้วงเงิน 1.21 พันล้าน ไฟเขียวเลื่อนวันไถ่ถอนหุ้นกู้ออกไปอีก 3 ปี พร้อมยกเว้นเหตุผิดนัดชำระหนี้ โดยยังคงอัตราดอกเบี้ยหุ้นกู้ไว้ที่ 6.5% เช่นเดิม

การผิดนัดชำระหนี้เงินกู้ของ บริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PACE ที่มีต่อ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB ซึ่งทำให้ เพซ ต้องผิดนัดชำระหนี้ในมูลหนี้อื่น(Cross Default) ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ หุ้นกู้ วงเงิน 1,219 ล้านบาท แต่ล่าสุด เพซ แจ้งว่า เจ้าหนี้หุ้นกู้ดังกล่าว ได้ยกเว้นการผิดนัดชำระหนี้ดังกล่าว และเลื่อนระยะเวลาชำระหนี้ออกไป 3 ปี

นายสรพจน์ เตชะไกรศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PACE แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) ว่า เมื่อวันที่ 6 พ.ย.ที่ผ่านมา บริษัทได้จัดประชุมผู้ถือหุ้นกู้ครั้งที่ 2/2562 ซึ่งมีผู้ถือหุ้นกู้เข้าร่วมประชุมด้วยตัวเองและมอบฉันทะรวม 72 ราย จากจำนวนผู้ถือหุ้นกู้ทั้งหมด 90 ราย หรือคิดเป็น 81.05% ของจำนวนหน่วยลงทุนที่ได้ออกจำหน่าย

การประชุมดังกล่าว ที่ประชุมมีมติอนุมัติยกเว้นเหตุผิดนัดตามข้อกำหนดสิทธิข้อ 11.1(ค) เนื่องจากผู้ออกหุ้นกู้ผิดนัดชำระหนี้กับธนาคารไทยพาณิชย์ ด้วยคะแนนเสียง 84.87% ของจำนวนเสียงทั้งหมดของผู้ถือหุ้นกู้ที่เข้าประชุม

ขณะเดียวกันยังอนุมัติแก้ไขวันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้ออกไปเป็นเวลา 3 ปี จากเดิมครบกำหนดไถ่ถอนวันที่ 23 ก.พ.2563 เป็นวันที่ 23 ก.พ.2566 โดยผู้ออกหุ้นกู้สามารถไถ่ถอนก่อนกำหนดได้ไม่ว่าจะบางส่วนหรือทั้งหมด ด้วยคะแนนเสียง 81.85% ของจำนวนเสียงทั้งหมดของผู้ถือหุ้นกู้ที่เข้าประชุม

นอกจากนี้ที่ประชุมยังอนุมัติแก้ไขอัตราดอกเบี้ยหุ้นกู้ ให้คงอัตราดอกเบี้ยที่ 6.5% ต่อปี โดยที่ผู้ออกหุ้นกู้จะชำระดอกเบี้ยทุกๆ ไตรมาสในอัตรา 3% ต่อปี เริ่มตั้งแต่วันที่ 23 พ.ย.2563 และผู้ออกหุ้นกู้จะชำระดอกเบี้ยส่วนต่างในอัตรา 3.5% ต่อปี ของทุกๆ งวด เมื่อมีการไถ่ถอนหุ้นกู้ ด้วยคะแนนเสียง 78.09% ของจำนวนเสียงทั้งหมดของผู้ถือหุ้นกู้ที่เข้าประชุม

 

ที่ประชุมยังได้อนุมัติยกเว้นหน้าที่ของผู้ออกหุ้นกู้ตามข้อกำหนดสิทธิข้อ 7.5 เรื่อง ผู้ออกหุ้นกู้จะดำรงไว้ซึ่งอัตราส่วนของหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น ณ วันสิ้นปีบัญชีตลอดอายุของหุ้นกู้ ตามงบการเงินรวมประจำปีของผู้ออกหุ้นกู้เป็นอัตราส่วนไม่เกิน 5.5 ต่อ 1 ด้วยคะแนนเสียง 83.47% ของจำนวนเสียงทั้งหมดของผู้ถือหุ้นกู้ที่เข้าประชุม

 ขณะเดียวกันที่ประชุมยังอนุมัติเลื่อนการชำระดอกเบี้ยงวดเดือนพ.ย.2562 ไปเป็นชำระไม่เกินวันที่ 23 ก.พ.2563 ด้วยคะแนนเสียง 87.5% ของจำนวนเสียงทั้งหมดของผู้ถือหุ้นกู้ที่เข้าประชุม