HMPRO - ถือ

HMPRO - ถือ

เน้นเพิ่มอัตรากำไร

Event

ประชุมนักวิเคราะห์และปรับประมาณการ

lmpact

ยอดขายแผ่วลง

ภาวะน้ำท่วม (ในเดือนสิงหาคม-กันยายน) และความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอทำให้ SSSG ใน 3Q62 ติดลบอยู่ที่ -1.7% จาก 5.6% ใน 2Q62 และ -0.3% ใน 3Q61 ทำให้ SSSG งวด 9M62 อยู่ที่ 2.2% เราคาดว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจจะยังคงชะลอตัวต่อเนื่องใน 4Q62 และคาดว่า SSSG ใน 4Q62 จะอยู่ที่ 0-1% ซึ่งจะทำให้ SSSG ทั้งปีอยู่ที่ ~2.0% (ต่ำกว่าสมมติฐานของเราที่ 3.5%) ทั้งนี้ HMPRO มีแผนจะเปิดห้าง Mega Home 2 แห่งใน 4Q62 ซึ่งจะทำให้จำนวนสาขาสิ้นปีนี้เพิ่มเป็น 113 สาขา โดย HMPRO มีแผนจะเดินหน้าขยายสาขาอย่างระมัดระวัง เรายังคงใช้สมมติฐานว่าบริษัทจะขยายสาขาปีละ 4-6 สาขาในช่วงปี 2563-64

อัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้นจากกลยุทธ์การเน้นขายสินค้า private brand

อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทงวด 9M62 เพิ่มขึ้น 50bps เป็น 26.6% จาก 26.1% ใน 9M61 จากกลยุทธ์การเน้นขายสินค้า private brand โดยสัดส่วนยอดขายสินค้า Private brand ในงวด 9M62 อยู่ที่ 19.9% เพิ่มขึ้น 0.3% จากปี 2561 เรายังคงใช้สมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้นในปี 2562-2564 ที่ 26.9%/ 27.1%/ 27.3%
ตามลำดับ

ปรับประมาณการเพื่อสะท้อนการชะลอตัวของภาวะเศรษฐกิจ และตลาดอสังหาริมทรัพย์

เราคาดว่า SSSG ในระยะต่อไปจะลดลงเนื่องจาก i) ความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจ และ ii) การชะลอตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์ (~20% ของรายได้ HMPRO มาจากตลาดบ้านใหม่ และเราคาดว่ายอดโอนปีหน้าจะหดตัว 5%) ดังนั้น เราจึงปรับลดสมมติฐาน SSSG ปี 2562-64 ลง 3.5/ 3.2/ 3.0% to 2.0/ 2.0/ 2.5% ตามลำดับ ดังนั้น เราจึงปรับลดประมาณการกำไรสุทธิในอีกสามปีข้างหน้าลง 1.0%

Valuation & Action

เราขยับไปใช้ราคาเป้าหมาย DCF สิ้นปี 2563 ที่ 17.50 บาท โดยใช้ WACC ที่ 8.3%, R(f) ที่ 3.1% และ TG ที่ 2.0% ถึงแม้เราจะคาดว่ากำไรจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งถึง ~10% ในอีกสามปีข้างหน้า แต่เรามองว่าราคาหุ้นแพงแล้ว (PER ที่ 36.5X เท่ากับค่าเฉลี่ยในอดีต +1.5 S.D.) และเนื่องจากราคาปิดล่าสุดเหลือ upside อีกแค่ 2.9% เท่านั้น เราจึงคงคำแนะนำ "ถือ" ในขณะที่การเข้าสู่ช่วง peak ตามฤดูกาลของธุรกิจใน 4Q62 เป็นเพียงแค่โอกาสให้เข้าซื้อเก็งกำไรเท่านั้น

Risks

เศรษฐกิจชะลอตัว, การ disruption ทางเทคโนโลยี, สภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงไป, ขยายสาขาได้ช้าเกินคาด