BCPG - ถือ

BCPG - ถือ

ผลประกอบการ 3Q62: เป็นไปตามคาด

Event

กำไรจากธุรกิจหลักของ BCPG ใน 3Q62 อยู่ที่ 410 ล้านบาท (-0.7% YoY, -5.3% QoQ) ซึ่งเป็นไปตาม
ประมาณการของเรา แต่ต่ำกว่า Bloomberg consensus 13.2% ทั้งนี้ หากรวมผลขาดทุนจาก FX 8.3 ล้าน
บาท กำไรสุทธิใน 3Q62 จะอยู่ที่ 401 ล้านบาท (-64.8% YoY, -13.5% QoQ) ทั้งนี้ ใน 3Q61 บริษัทมี
กำไร 793 ล้านบาทจากการขาย Nagi และ Nikaho solar ออกไปให้กองทุน

lmpact

กำไรจากธุรกิจหลักใน 3Q62 ทรงตัว YoY แต่ลดลง QoQ จากปัจจัยฤดูกาล

รายได้ลดลงมาอยู่ที่ 790 ล้านบาท (-4.8% YoY, -6.8% QoQ) โดยรายได้ที่ลดลง YoY เป็นเพราะมีการขายโครงการ solar ในญี่ปุ่นออกไปให้กองทุน ในขณะที่รายได้ที่ลดลง QoQ เป็นเพราะโครการ solar ในประเทศไทยผลิตไฟฟ้ าได้น้อยลง (+2.3% YoY, -8.5% QoQ) เช่นเดียวกับที่ญี่ปุ่น (-63.9% YoY, -7.0%QoQ) ทั้งนี้ รายได้ Equity income เพิ่มขึ้นเป็น 123 ล้านบาท (+8.3% YoY, +97.5% QoQ) เนื่องจาก capacity factor ของโครงการพลังความร้อนใต้พิภพในอินโดนีเซียเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีการปิ ดซ่อมบำรุงตามแผนลดลง (95.3% ใน 3Q62, 90.8% ใน 2Q62 และ 91.9% ใน 3Q61)

ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2562-63 ขึ้นอีก 4.2-9.2% จากการซื้อกิจการ Nam San 3A acquisition

เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2562 ขึ้นอีก 4.2% และปี 2563 ขึ้นอีก 9.2% จากการซื้อกิจการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ Nam San 3A (ถือหุ้น 100%) เราคาดว่าบริษัทจะเริ่มรับรู้ผลการดำเนินงานของ Nam San 3A ตั้งแต่ 4Q62 เป็นต้นไป ทั้งนี้ ต้นทุนการลงทุนเบื้องต้นอยู่ที่ 4.4 พันล้านบาท ซึ่งบริษัทจะกำหนดสัดส่วนหนี้สินต่อทุนสำหรับโครงการนี้ไว้ที่ 70:30 เราคาดว่าโครงการนี้จะทำกำไรให้บริษัท (สุทธิจากต้นทุน amortization แล้ว) ปี ละ 360 ล้านบาท ทั้งนี้ การลงทุนในโครงการนี้จะทำให้สัดส่วนหนี้สินต่อทุนของ
บริษัทเพิ่มขึ้นจาก 1.05x เป็น 1.30x ในปี 2562

คาดว่าผลประกอบการ 4Q62 จะดีขึ้นทั้ง YoY และ QoQ เนื่องจากโครงการ Nam San 3A

กำไรจากธุรกิจหลักของ BCPG ในงวด 9M62 อยู่ที่ 1.3 พันล้านบาท (+1.0% YoY) คิดเป็น 70.3% ของประมาณการกำไรปีนี้ของเรา ทั้งนี้ เราคาดว่ากำไรใน 4Q62 จะเพิ่มขึ้นทั้ง QoQ และ YoY เนื่องจากมีการรวมผลการดำเนินงานของ Nam San 3A เข้ามาเต็มไตรมาส นอกจากนี้ เรายังคาดว่า capacity factor ของโรงไฟฟ้า solar ในประเทศไทย และโรงไฟฟ้ าพลังงานลมในฟิลิปปินส์จะเพิ่มขึ้นใน 4Q62 ด้วย

Valuation & Action

เรายังคงคำแนะนำ ถือ และขยับไปใช้ราคาเป้าหมาย DCF ปี 2563 ที่ 20 บาท เรามองว่าการรับรู้ผลการดำเนินงานเต็มปีของโครงการ Lomligor (9MWe) และ Nam San 3A (69MWe) จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนการเติบโตของกำไรในปี 2563 เรามองว่า upside ในปีหน้าจะมาจาก i) การเข้าร่วมประมูลโครงการ solar ในประเทศมาเลเซีย (100MW) และ ii) โครงการชีวมวลในญี่ปุ่น (~60MW)

Risks

ความล่าช้าในการจัดสรรกำลังการผลิตใหม่, การเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์ของทางการ, โรงไฟฟ้าหยุดผลิตไฟฟ้า และความล่าช้าในการก่อสร้างโครงการใหม่