วิเคราะห์สถานการณ์"ราคาน้ำมัน" (6 พ.ย.62)

วิเคราะห์สถานการณ์"ราคาน้ำมัน" (6 พ.ย.62)

ราคาน้ำมันดิบปรับขึ้นต่อ จากความหวังข้อตกลงทางการค้าสหรัฐฯ - จีน

+ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนท์ปรับตัวเพิ่มขึ้น จากความหวังการเจรจาข้อตกลงทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ จบลง ภายในเดือน พ.ย. นี้  โดยสหรัฐฯ พิจารณาว่าจะเลิกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนมูลค่า 1.12 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งสินค้าดังกล่าวรวมถึงเสื้อผ้า เครื่องใช้ไฟฟ้า ทีวีจอแบน ซึ่งถูกเก็บภาษี 15% เมื่อวันที่ 1 ก.ย.  ที่ผ่านมา

+ นาย Mohammad Barkindo เลขาธิการโอเปคกล่าวว่า ตลาดน้ำมันดิบในช่วงปี 2563 คาดว่าจะดีขึ้นกว่าในปีนี้เนื่องจากปริมาณน้ำมันดิบที่ปรับลดลงจากการปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปคและประเทศพันธมิตร รวมถึงการคว่ำบาตรการส่งออกน้ำมันจากอิหร่านและเวเนซุเอลาของสหรัฐฯ  โดยตลาดยังรอดูผลการประชุมของกลุ่มโอเปคและประเทศพันธมิตร ซึ่งมีกำหนดการประชุมในวันที่ 5-6 ธ.ค. นี้

+/- กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) รายงานแนวโน้มตลาดน้ำมันโลกประจำปี 2562 ในวันนี้ โดยระบุว่า โอเปคจะส่งออกน้ำมันลดลงในช่วง 5 ปีข้างหน้า ลดลงสู่ระดับ 32.8 ล้านบาร์เรลต่อวันภายในปี 2567 เมื่อเทียบกับระดับ 35 ล้านบาร์เรลต่อวันในปีนี้ เนื่องจากสหรัฐฯ และประเทศคู่แข่งของโอเปคมีการผลิตน้ำมันมากขึ้น

ราคาน้ำมันเบนซิน

ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากอุปสงค์ในภูมิภาคเอเชียยังคงทรงตัวอยู่ในระดับดี อย่างไรก็ตาม อุปทานน้ำมันเบนซินจากจีนยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้น

ราคาน้ำมันดีเซล

ปรับเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจาก การส่งออกน้ำมันดีเซลในภูมิภาคเอเชียเหนือยังคงอยู่ในระดับสูง