ส่องเกมสองขาพรรคปชป. ดัน 'อภิสิทธิ์' นั่งปธ.แก้รัฐธรรมนูญ

ส่องเกมสองขาพรรคปชป.  ดัน 'อภิสิทธิ์' นั่งปธ.แก้รัฐธรรมนูญ

ปมแก้รัฐธรรมนูญ 2560 ถูกจุดประเด็นมาอีกครั้ง ภายหลังพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) โยนชื่อ “เดอะมาร์ค” อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคปชป. ให้นั่งเก้าอี้ประธานกรรมาธิการวิสามัญเพื่อศึกษาปัญหาและแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

ชื่อ อภิสิทธิ์ ในทางการเมืองแม้จะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมาแล้ว แต่ไม่เสียหายหากจะมานั่งเก้าอี้ “กมธ.แก้รัฐธรรมนูญ” และคาดว่าตัว อภิสิทธิ์ หวังใช้เวทีนี้แก้ตัว ภายหลังนำพา พรรคปชป. เข้าสู่ยุคตกต่ำ พ่ายแพ้อย่างย่อยยับในศึกเลือกตั้ง 24 มี.ค. จนต้องลาออกจาก ส.ส.

ทว่าจุดยืนของ อภิสิทธิ์ ที่ชูนโยบายหาเสียงเอาไว้คือการ “แก้รัฐธรรมนูญ” แม้จะถูกสมาชิกพรรคปชป.บางส่วนตำหนิว่าเป็นการเดินเกมผิดพลาด เพราะถูกผลักให้อยู่กับฝั่งเดียวกับ พรรคเพื่อไทย จนนำมาสู่ความพ่ายแพ้ แต่ อภิสิทธิ์ พูดชัดทุกวงสัมภาษณ์ว่าเป็นจุดยืนที่ถูกต้องแล้ว

และหากย้อนกลับไปในช่วงลงคะแนนเสียง ประชามติ รับร่างรัฐธรรมนูญ ก่อนวันที่ 7 ส.ค. 2559 อภิสิทธิ์ ออกมาแถลงในนามพรรคปชป. ประกาศรับร่างรัฐธรรมนูญ ด้วยเหตุผลดังนี้ 1.ไม่เห็นด้วยกับคำถามพ่วงที่ให้ ส.ว. สามารถเลือกนายกรัฐมนตรีได้ 2.เห็นว่าร่างรัฐธรรมนูญมีจุดอ่อนมากกว่าจุดแข็ง โดยเฉพาะกระบวนการถอดถอน ป.ป.ช. ที่ต้องผ่านประธานรัฐสภา

ที่สำคัญ อภิสิทธิ์ ไม่เห็นด้วยกับการทำ ประชามติ ที่ยังมี ม.44 ในขณะนั้นบังคับใช้อยู่ เนื่องจากไม่สามารถให้ประชาชนได้แสดงความเห็นได้อย่างเต็มที่

ซึ่งก่อนประกาศจุดยืนของ อภิสิทธิ์ มี ส.ส.กลุ่มหนึ่ง ได้เข้าพบพร้อมแสดงความเห็นคัดค้านท่าทีของ อภิสิทธิ์ เนื่องจากเกรงว่าจะเข้าทาง ขั้วตรงข้าม และจะเป็นชนวนทำให้เกิดความขัดแย้ง แต่ อภิสิทธิ์ ที่ยังนั่งเก้าอี้หัวหน้าพรรคปชป. ไม่สนเสียงทักท้วง เดินหน้าประกาศจุดยืน

มาจนวันนี้จุดยืนของ อภิสิทธิ์ ไม่มีเปลี่ยนแปลง ยังคงเดินเกมเปิดศึก “ตัวแทน” ส่งตัวเองให้เข้าไปมีบทบาทในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยมอบหน้าที่หลักให้เป็นของ “เทพไท เสนพงศ์” ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคปชป. ให้เป็นคนเดินเกม

“เทพไท” เสนอที่ประชุมรัฐสภาให้ตั้ง กมธ.ศึกษาแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งถือว่าเป็นหมากที่ประสบความสำเร็จ ยี่ห้อ “เทพไท” แม้ราคาทางการเมืองจะน้อย แต่เมื่อมี “ยี่ห้ออภิสิทธิ์” แปะอยู่ข้างหลังยังพออัพเกรดขึ้นมาได้

ส่วนบรรยากาศภายในพรรคปชป. แม้ อภิสิทธิ์ จะไม่มีบทบาทในการบริหารพรรค แต่รู้กันดีว่า จุรินทร์ ลักษณวิศิษฐ์ รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้นั่งเก้าอี้หัวหน้าพรรคปชป. ส่วนหนึ่งเป็นเพราะ “ก๊วนอภิสิทธิ์” เทคะแนนให้ในช่วงโค้งสุดท้าย

จังหวะก้าวของ “จุรินทร์” จึงปรากฏเงาของ อภิสิทธิ์ อยู่ข้างหลังในบางเกมที่ต้องแบ่งกันเล่น อย่าลืมว่าหากไม่มี อภิสิทธิ์ ที่ยอมหักหลัง กรณ์ จาติกวณิช ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคปชป. เทคะแนนให้ จุรินทร์ ก็อาจจะไม่ถึงฝั่งฝัน

จนมีการตั้งข้อสังเกตกันว่า จุรินทร์ ไม่ได้หักแยกกันเดินกับ อภิสิทธิ์ แต่แบ่งบทกันเล่นมากกว่า เหมือนมี สัญญาใจ บางอย่างที่เคยสัญญากันไว้ มติของพรรคปชป. จึงเสนอ อภิสิทธิ์ ขึ้นเป็น “ประธานกมธ.แก้รัฐธรรมนูญ” ชนิดไร้เสียงคัดค้าน ทั้งที่รู้ว่า “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรี รมว.กลาโหม ไม่ถูกใจสิ่งนี้

ขณะที่ “ขั้วกรณ์” แม้จะอกหักไร้เก้าอี้บริหารทั้งในพรรคปชป.-รัฐบาล แต่หากไฟต์บังคับให้ต้องเลือก ก็จะอยู่เคียงข้าง อภิสิทธิ์ ถึงจะโดนหักหลังช่วงเลือกหัวหน้า พรรคปชป. ก็ตาม

แต่สัญญาที่แปลกออกไปคือขั้วของ พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคปชป. อดีตผู้ท้าชิงเก้าอี้หัวหน้าพรรค ก็ไร้เสียงคัดค้านเช่นกัน จึงผิดสังเกตกับกลเกมของ พรรคปชป. ที่ต่างแบ่งบทกันเล่นเกือบทุกขั้ว

แต่ศึกนี้ยังต้องฟาดฟันกันอีกหลายยก หลัง พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ไม่ยอมให้ อภิสิทธิ์ ได้สมหวังง่ายๆ เตรียมส่ง “สุชาติ ตันเจริญ” รองประธานสภา ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพปชร. ลงมาชิงเก้าอี้ “ประธานกมธ.แก้รัฐธรรมนูญ” เพื่อไม่ให้เสียเหลี่ยม พรรคปชป.

โจทย์ของ พรรคพปชร. คือการแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา และไม่เตะต้องประเด็นให้ ส.ว. โหวตผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ไม่เช่นนั้น “พล.อ.ประยุทธ์” มีโอกาสสูงที่จะไม่ได้นั่งเก้าอี้นายกฯอีก ในการเลือกตั้งครั้งต่อไป

ทีมพรรคพปชร. จึงจำเป็นต้องตัดไฟเสียตั้งแต่ต้นลม ขัดขวางการแต่งตั้ง “สภาร่างรัฐธรรมนูญ” (สสร.) เพื่อมาทำการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ เหมือนที่ “พล.อ.ประยุทธ์” ปิดช่องเอาไว้

แต่หากไม่สามารถต้านทานได้ พล.อ.ประยุทธ์-รัฐบาล ยังมีไม้เด็ดอยู่ที่การอ้างว่า รัฐธรรมนูญ 2560 ผ่านการทำประชามติ หากจะแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องทำประชามติด้วย

ขณะที่ พรรคปชป.-อภิสิทธิ์ ก็เสี่ยงไม่ใช่น้อยกับการที่ต้องเผชิญข้อกล่าวหากสมคบคิด ขั้วเพื่อไทย-ทักษิณ เพราะเกมแก้รัฐธรรมนูญ 7 พรรคฝ่ายค้าน เอาด้วยกับ พรรคปชป. อย่างแน่นอน อยู่ที่ว่า พรรคปชป. จะยอมให้ถูกนำไปปั่นกระแสตีกินมากน้อยเพียงใด

ทางเลือกที่ พรรคปชป.-อภิสิทธิ์ ยอมเสี่ยง เพราะมั่นใจว่าสามารถกู้ศรัทธาจาก “แฟนคลับ” ที่เคยรัก-เคยศรัทธา ให้กลับเลือก พรรคสีฟ้า อีกครั้ง

แต่ก็เสี่ยงที่จะเสีย ฐานเสียง-ความนิยม โดยเฉพาะพื้นที่ภาคใต้-กทม. เพราะ “แฟนคลับ” ของ พล.อ.ประยุทธ์-พปชร. ก็เร่มเบ่งบานขึ้นทุกวันเช่นกัน

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

-พปชร.ขวาง 'อภิสิทธิ์' นั่ง'ปธ.แก้รัฐธรรมนูญ' ชี้ ปชป.แค่

-ดัน 'อภิสิทธิ์' นำทีมแก้รัฐธรรมนูญ ฝ่ายค้าน-ปชป