งดดื่มเพราะจดหมายฉบับนั้นของลูก

        เฉพาะปี 2562 ผลการประเมินโครงการ “งดเหล้า เข้าพรรษา” ของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) พบว่า มีผู้ร่วมงดเหล้าเข้าพรรษา 53.5% เป็นผู้งดเหล้าตลอดพรรษา 31% งดบางช่วง 22.5% สัดส่วนใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ส่วนใหญ่ระบุว่า ทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงดีขึ้น และสามารถประหยัดได้เฉลี่ยคนละ 1,284 บาท ประมาณการจำนวนเงินโดยรวมที่ประเทศประหยัดได้เป็นจำนวน 8,251 ล้านบาท และกลุ่มที่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมมี 5% ตั้งใจจะเลิกดื่มตลอดชีวิต

       บุญมา นุชอิ่ม พ่อผู้งดเหล้าครบพรรษา บอกว่า ตัดสินใจงดเหล้าเข้าพรรษาเพราะจดหมายของลูกชาย จากเดิมที่ดื่มมาเป็นเวลา 20 ปีทุกวันหลังเลิกงานด้วยการลงขันกับเพื่อนร่วมงานคนละ 100 บาท ซึ่งจะเมากลับบ้านเสมอ เมื่อต้องไปส่งลูกที่โรงเรียนตอนเช้า ทำให้บ่อยครั้งที่ลูกต้องไปโรงเรียนสายและหนักที่สุดคือเกิดอุบัติเหตุขับรถพาลูกลงข้างทางตกคลอง แม้ที่ผ่านมาในช่วงเข้าพรรษาเคยพยายามที่จะงดเหล้าเช่นกัน แต่ทำได้เพียง 2-3 วันเท่านั้น เพราะไม่มีแรงจูงใจและอาย จนปีนี้ตั้งใจจริงที่จะงดให้ครบพรรษาเพื่อลูก เนื่องจากโรงเรียนมีกิจกรรมที่รณรงค์ให้ผู้ปกครองงดเหล้าเข้าพรรษาโดยผ่านทางลูกที่ขอให้พ่อเลิกเหล้า

           “ลูกชายเขียนจดหมายมายื่นให้ โดยเนื้อหาเขียนว่า ถึงพ่อ ผมขอให้พ่อเลิกเหล้าเพื่อผม เพราะกลัวตับพ่อจะพัง ถ้าเลิกได้จะได้อยู่กับผมไปนานๆ จึงตัดสินใจแน่วแน่ที่จะทำให้ได้ ซึ่งตลอดเวลา 3 เดือนก็จะมีลูกคอยให้กำลังใจตลอดว่าพ่อต้องทำให้ได้นะ และเมื่อเพื่อนมาชวนดื่มก็บอกปฏิเสธได้ง่ายว่าเข้าพรรษา เพื่อนก็ไม่เซ้าซี้ แม้การงดเหล้าในช่วงแรกจะมีอาการนอนไม่หลับ ปวดเมื่อยร่างกายบ้าง แต่เป็นอยู่เพียงไม่กี่วันเท่านั้น”บุญมากล่าว

           บุญมา บอกด้วยว่า เมื่องดเหล้าในช่วงเข้าพรรษา ทำให้กลับบ้านเร็วขึ้น มีเวลาพักผ่อนและอยู่กับลูกมากขึ้น ที่สำคัญลดความเสี่ยงอันตรายจากการเกิดอุบัติเหตุเมื่อต้องขับรถไปส่งลูกที่โรงเรียน เพราะเมาค้าง และมีเงินเหลือจากค่าเหล้าวันละ 100 บาทมาใช้ซื้อขนมและของกินให้กับลูกๆเพิ่มขึ้น ขณะที่ร่างกายของตนเองก็รู้สึก สดชื่น กระปรี่กระเปร่า มีแรงกำลังมากขึ้น

         น้องไบรท์-ด.ช.วรวิช นุชอิ่ม นักเรียนชั้นป.1 ร.ร.คลองใหม่ จ.สมุทรปราการ กล่าวด้วยความภาคภูมิใจว่า ดีใจที่พ่อเลิกเหล้าครบพรรษา ถ้าพ่อไม่กินเหล้า จะใจดี ไม่ดุไม่ว่า เมื่อพ่อไม่ดื่มเหล้าก็มีเวลาเล่นด้วยกันมากขึ้น และจะเป็นกำลังใจให้พ่อตลอดไปในการที่จะเลิกเหล้าต่อไป

        ขณะที่ ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการสสส. กล่าวว่า การงดเหล้าช่วงเข้าพรรษา 3 เดือนมีข้อดีมากมาย จึงขอให้ใช้เป็นโอกาสสำคัญในการเปลี่ยนแปลงตนเอง ดูแลครอบครัว และเศรษฐกิจในครอบครัว และให้เลิกดื่มต่อไป ไม่เฉพาะช่วงเข้าพรรษาแต่อยากเชิญชวนงดเหล้าตลอดชีวิต เพื่อสรา้งรอยยิ้มให้คนรอบข้างและสร้างความสุขให้สังคม เพราะจากการสำรวจของศูนย์วิจัยเพื่อพัฒนาสังคมและธุรกิจ ตั้งแต่ปี 2559-2561 พบว่ามีคนอยากเลิกดื่มไปเลย 13 % อยากจะลดปริมาณลง 58 %