"อนุทิน"ลั่นยอมเป็นควาย!!!

"อนุทิน"ลั่นยอมเป็นควาย!!!

“อนุทิน”ลั่นยอมเป็นควาย ไม่หนุนสารเคมีทุกชนิด ถ้าพบตกค้างก่ออันตรายสุขภาพประชาชน ขณะที่สสจ.สมุทรสงคราม ยันเกษตรกรในจังหวัดไม่ได้รับผลกระทบจากการแบน 3 สารเคมี ส่วนใหญ่ไม่จำเป็นต้องใช้สารเคมี เผย 2 ปีย้อนหลัง ไม่พบเกษตรกรป่วย-ตายจากสารพิษ

        วันนี้(6พ.ย.) ที่กระทรวงสาธารณสุข กลุ่มเกษตรกรในจ.สมุทรสาคร และจ.ราชบุรี และผู้บริการส่วนงานสาธารณสุขในเขตสุขภาพที่ 5 ประมาณ 20 คน เข้าพบนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(รมว.สธ.) เพื่อขอบคุณและให้กำลังใจกรณีที่ช่วยผลักดันให้เกิดการแบน 3 สารเคมีทางการเกษตรในประเทศไทย พร้อมมอบผักและผลไม้ปลอดสารพิษให้กับนายอนุทิน  โดยนายอนุทิน กล่าวว่า สารที่จะนำมาใช้แทนสารเคมีอันตรายทั้ง 3 ชนิด จะต้องมีการตรวจสอบ เพราะหากไม่มีการตรวจสอบก็จะเหมือนกับที่ทุกคนเห็นว่าหากสารเคมีมีอันตรายต่อชีวิตมนุษย์ก็จะต้องถูกแบน ดังนั้น จึงหวังว่าสารอื่นๆที่จะนำเข้ามาก็ต้องมีการดูให้ละเอียดอย่าให้มีสิ่งปนเปื้อนหรือสิ่งที่เป็นพิษ เพราะหากมีสิ่งปนเปื้อนก็จะต้องถูกแบนอีก เพราะไม่ใช่แบนสารอันตราย 3 ชนิดแล้วจะไม่แบนอีก อย่างไรก็ตามไม่ว่าสารอะไรก็ขออย่าให้มีพิษหรืออันตรายต่อสุขภาพของประชาชนหรือเกษตรกร
          ผู้สื่อข่าวถามว่า จุดยืนของกระทรวงสาธารณสุขไม่เห็นด้วยกับการที่จะใช้สารเคมีตัวอื่นใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า แน่นอน เพราะจุดยืนของสธ.ไม่สามารถเห็นด้วยกับการใช้สารปนเปื้อนอยู่แล้ว เพราะถือเป็นภารกิจที่จะต้องปกป้องสุขภาพและคุณภาพชีวิตของประชาชน
เมื่อถามถึงสารกลูโฟซิเนตที่มีกระแสว่าอาจจะมีการถูกระงับอีกหรือมีการกำหนดระยะเวลาในการใช้อีกหรือไม่นั้น นายอนุทิน กล่าวว่า จะใช้ได้กี่ปีไม่สำคัญแต่ประเด็นคือมีวัตถุหรือส่วนผสมที่เป็นอันตรายหรือไม่ หากตรวจพบก็ต้องห้าม โดยในส่วนของกระทรวงก็จะต้องดูสารทุกตัวว่าจะมีอันตรายกับร่างกายหรือไม่
           กรณีมีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงแอ๊ด คาราบาว โดยอ้างว่าแอ๊ดอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับสารเคมีเกษตรที่เป็นสารทดแทนตัวใหม่ อาจกระทบภาพลักษณ์สธ.หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่มีเรื่องนี้ และพี่แอ๊ดก็ไม่ได้มาทำงานอะไรกับสธ. เพราะพี่แอ๊ดก็เป็นประชาชนคนหนึ่ง ซึ่งด้วยความที่เป็นศิลปินตรงไหนที่เห็นว่าเป็นอันตราย ก็ออกมารณรงค์ด้วยเสียงเพลง แต่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับสธ.เพราะไม่ไปว่าจ้างหรือขอร้องใดๆเป็นการทำด้วยตัวเขาเอง ส่วนที่บอกว่าอาจมีคนเกี่ยวข้องกับสารเคมีตัวใหม่ว่าจ้างนั้น ตนไม่ทราบเรื่องนี้ และเชื่อว่าคนเราออกมารณรงค์ขนาดนี้แล้วมีคนมาว่าจ้างให้เปลี่ยนจุดยืนคงไม่ใช่แอ๊ดคาราบาว เพราะพี่แอ๊ดรวยจะตาย เงินแค่นี้มาเปลี่ยนแอ๊ดไม่ได้


       "มีคนมาบอกว่าระวังผมจะเป็นควายโดนจูงจมูกในเรื่องการแบนสารพิษ แต่ผมยอมเป็นควายให้จูงจมูกถ้าชาวบ้านปลอดภัย ดีกว่าเป็นคนที่มีความฉลาด แต่เอาเปรียบประชาชน หรือทำให้ประชาชนเดือดร้อน ยืนยันว่าไม่ใช่พวกเราชาวสาธารณสุขแน่นอน"นายอนุทินกล่าว 
         

       ด้านนพ.สันทิต บุณยะส่ง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด(นพ.สสจ.)สมุทรสงคราม กล่าวว่า สถานการณ์การเจ็บป่วยด้วยโรคจากสารเคมีที่ใช้ในการเกษตรพบว่า ในปี 2560-2562 จ.สมุทรสงคราม ไม่พบเกษตรกรป่วยหรือตายจากสารพิษ โดยเกษตรกรในจังหวัดส่วนมากปลูกมะพร้าว ส้มโอ และลิ้นจี่ ซึ่งไม่มีความจำเป็นต้องใช้สารเคมีทั้ง 3 ชนิด แต่จะใช้แรงงานคนและเครื่องจักร ดังนั้น เกษตรกรจ.สมุทรสงครามจึงไม่ได้รับผลกระทบจากการแบนสารเคมีทั้ง 3 ชนิด และให้การสนับสนุนในการทำเกษตรปลอดสารพิษ เนื่องจากเกษตรกรเป็นผู้ที่รักสุขภาพห่างไกลจากสารพิษทางการเกษตร ส่วนกรณีที่เครือข่ายอาสาคนรักษ์แม่กลอง ได้ออกมาต่อต้านการยุติการใช้สารเคมี 3 ชนิด ได้แก่ พาราควอต คลอร์ไพริฟอส และไกลโฟเซตนั้น เครือข่ายฯมีแกนนำ 6 คน สมาชิกราว 1,091 คน และสมาชิกส่วนใหญ่เป็นคนดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี
        นายสนั่น คล้ำเหลือ อายุ 56 ปี เกษตรกร จ.ราชบุรี กล่าวว่า ตนเป็นเกษตรกรที่ไม่ใช้สารเคมีมานานกว่า 10 ปี ซึ่งไม่ได้รับผลกระทบกับการแบนสารเคมี 3 ชนิด ซึ่งต้นทุนถูกกว่าการใช้สารเคมี เพราะการกำจัดศัตรูพืชและแมลงมีสมุนไพรหลายชนิดที่กำจัดได้ผลดี และอยากฝากรัฐบาลให้ทำการเกษตรกรไทยเป็นเกษตรอินทรีที่ทั่วโลกยอมรับ และเป็นเกษตรอินทรีย์ของครัวโลก นอกจากนี้อยากฝากให้รัฐมีการควบคุมระบบการเกษตรไม่ปล่อยให้ปลูกกันอย่างสะเปะสะปะ และขอให้กำลังใจพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีด้วย