อังกฤษ-นิวซีแลนด์-กลุ่มศก.ยูเรเชียหวังเพิ่มสัมพันธ์การค้าอาเซียน
อังกฤษ-นิวซีแลนด์-กลุ่มศก.ยูเรเชียหวังกระชับสัมพันธ์การค้ากับอาเซียน เพื่อรับมือกับปัจจัยเสี่ยงทางเศรษฐกิจ รวมทั้งความไม่แน่นอนทางการเมืองและมาตรการกีดกันการค้าที่เพิ่มขึ้น
เจ้าฟ้าชายแอนดรูว์ ดยุกแห่งยอร์ก พระราชโอรสในสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ของอังกฤษ ทรงมีพระดำรัสต่อที่ประชุมสุดยอดธุรกิจและการลงทุนอาเซียนเมื่อวันอาทิตย์(3พ.ย.)ว่า ที่ประชุมสุดยอดธุรกิจอาเซียนมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อสหราชอาณาจักร ที่เตรียมจะออกจากสหภาพยุโรป ความเชื่อมโยงของสหราชอาณาจักรกับทั่วโลกกำลังเปลี่ยนแปลง ซึ่งสหราชอาณาจักรต้องทำให้เศรษฐกิจมีความหลากหลาย แต่ก็อยากเรียร้องให้รัฐบาลประเทศต่าง ๆ ขจัดอุปสรรคการค้าระหว่างประเทศและส่งเสริมการค้ามากกว่ากำหนดระเบียบกฎเกณฑ์มากเกินไป
ด้านนางจาซินดา อาร์เดิร์น นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ กล่าวว่า จะมีการเจรจารอบแรกเพื่อยกระดับเอฟทีเออาเซียน-ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ที่บังคับใช้ไปตั้งแต่ปี 2553 ในปีหน้า ซึ่งนิวซีแลนด์ กำลังมองหาลู่ทางเพิ่มความร่วมมือกับสมาชิกอาเซียน ผ่านโครงการต่างๆ เช่น ให้ทุนการศึกษา แบ่งปันวิธีทำการเกษตรที่ดี
นอกจากนี้ ผู้นำนิวซีแลนด์ เรียกร้องให้ภูมิภาคนี้กระชับความร่วมมือกับนิวซีแลนด์มากขึ้น ท่ามกลางบรรยากาศทางการเมืองที่มีความไม่แน่นอน และมีการกีดกันทางการค้ามากขึ้น โดยสองปีที่ผ่านมา มาตรการกีดกันทางการค้าใหม่ ๆ ส่งผลกระทบต่อการค้าโลกเกือบ 1 ล้านล้านดอลลาร์
ขณะที่นายดมิทรี เมดเวเดฟ นายกรัฐมนตรีของรัสเซีย กล่าวในฐานะประเทศกลุ่มอีเออียู ที่ประกอบด้วยรัสเซีย อาร์เมเนีย คาซัคสถาน คีร์กิซสถาน และเบลารุส ได้ลงนามข้อตกลงเขตการค้าเสรี(เอฟทีเอ) กับเวียดนามเมื่อปี 2558 และกับสิงคโปร์ เมื่อเดือนที่แล้ว และปัจจุบัน กำลังหารือกับหุ้นส่วนอาเซียนอีกหลายประเทศ จึงขอให้อาเซียนร่วมกับอีเออียูแก้ปัญหาการผูกขาดตลาดของบรรดาบริษัทเทคโนโลยี เพื่อให้มีการแข่งขันอย่างสมบูรณ์ และเปิดทางให้มีแนวคิดที่น่าสนใจใหม่ ๆ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
-ทูตสหรัฐผิดหวังอาเซียนบอยคอตต์ 'ทรัมป์'
-'อาเซียน-อินเดีย' ถกความร่วมมือต้านก่อการร้าย-แนวคิด
-เปิดประชุมสุดยอดอาเซียน 'ประยุทธ์' ย้ำจุดแข็งเป็นมิตร
-ผู้นำอาเซียน-อินเดีย เร่งหนุนการค้าทะลุเป้า
-ASEAN Insight - คอลัมนิสต์